บทบรรณาธิการ
เรื่องใหญ่ และเรื่องสำคัญของสังคมไทย ที่ไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่กันเท่าใดนัก ก็คือระบบฐานข้อมูล การจัดทำระบบหอจดหมายเหตุ โดยเฉพาะลำปางเอง ข้อที่น่าตกใจคือว่า ลำปางเคยมีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ ปีพ.ศ.2492 คือ ไทยลานนา และ เอกราช ในปีพ.ศ.2500
แต่ลำปาง ขาดโครงสร้างพื้นฐานที่จะเก็บสิ่งตีพิมพ์ดังกล่าว (ยังไม่ต้องนับถึงสื่อสิ่งพิมพ์ และข้อมูลอีกจำนวนมหาศาลที่ขาดการจัดเก็บเป็นข้อมูลให้คนรุ่นหลังค้นคว้า ศึกษา) เราจึงไม่สามารถหาต้นฉบับหนังสือพิมพ์ดังกล่าว เพื่อค้น "ประวัติศาสตร์" และ "เรื่องราวลำปาง" แม้ในระยะสั้นๆ เพียง 50 -60 ปี
เชื่อว่าอีกไม่นานเรื่อง "น้ำท่วมใหญ่ลำปาง 2548" ที่สร้างความพินาศเสียหายอย่างใหญ่หลวง ก็คงจะเป็นเพียงเรื่องเล่าจากความทรงจำจางๆ เช่นเดียวกับที่เหตุภัยพิบัติทั้งหลายที่เกิดกับลำปางแต่มิได้รับการบันทึก ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ตลาด น้ำท่วม คนประสบภาวะหิวโหย...ทั้งหลายทั้งปวงจะไม่สามารถสืบค้นทางประวัติเอกสารได้แน่ชัด...และถูกหลงลืมไปในที่สุด
หากไม่มองโลกในแง่ร้ายนัก ในโลกคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต อันเป็นโอกาสอันกว้างขวางที่สามารถย่นเวลา และระยะทางการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมหาศาล วันนี้ขณะที่ seacrh หาข้อมูลข่าวทำให้ได้พบกับเว็บไซต์หนึ่งนามว่า http://www.lampang2u.com/ เว็บนี้มีความพยายามอย่างยิ่งในการเก็บรวบรวมฐานข้อมูลร้านค้าลำปาง และข่าวท้องถิ่นลำปางได้อย่างน่าชื่นชม
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวยังมีไม่เพียงพอ ยังคับแคบเกินไป เมื่อเทียบกับความกว้างขวางในโลกไซเบอร์ พื้นที่ตรงนี้ จึงอาสาที่จะออกมาเพื่อรองรับกับ ข้อมูล ข่าวสาร และสถิติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับลำปาง ในปัจจุบันสมัย เท่าที่จะมีกำลังจะทำได้ ขณะเดียวกันก็มองลู่ทางของเครือข่ายในมหาสมุทรแห่งข้อมูลของลำปางไปด้วย
ขณะที่ on Lampang : เปิดโลกลำปาง ก็ทำอีกหน้าที่หนึ่งในการรวบรวมฐานข้อมูล และข่าวสารทางศิลปวัฒนธรรมอันเป็นรากฐานสำคัญหนึ่งของลำปาง ซึ่งคนละบทบาทกับที่แห่งนี้ จึงถือว่า บทนำนี้เป็นการเริ่มนับหนึ่ง ที่ออกก้าวเพื่อวันข้างหน้า ดังที่ เอนก นาวิกมูล นักเขียนสารคดีชื่อดัง เคยบอกไว้ว่า "เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า"
ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ on Lampang POST
ศุกร์ 2
พฤษภา 51
วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2551
สถานการณ์ไข้เลือดออกลำปาง พุ่งสูงกว่าปีที่แล้ว
โดย สำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
25 มิถุนายน 2551 / 09:50:05
ที่มา : http://www.lampang.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=080625095005
สถานการณ์โรคไข้เลือดออกของจังหวัดลำปาง ในปี2551 มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงต่อเนื่อง
นายแพทย์ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเป็นจำนวนมากและสูงต่อเนื่องในขณะนี้ โดยมีรายงานผู้ป่วยสะสม จำนวน 233 ราย อัตราป่วย 30.18 ราย ต่อประชากร1แสนคน ซึ่งสูงกว่าปี 50 ในเวลาเดียวกันพบผู้ป่วยจำนวน 150 ราย อัตราป่วย 19.37 ต่อประชากร 1 แสนคน
อำเภอแม่พริกพบผู้ป่วยสูงสุดคิดเป็น 159.39 ต่อประชากร 1 แสนคน
รองมาเป็นอำเภอเถินอัตราป่วยคิดเป็น 49.89 ต่อประชากร 1 แสนคน
และอำเภอเกาะคาคิดเป็น 44.32 ต่อประชากร 1 แสนคน
แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ระหว่างเดือน มิ.ย – ส.ค นี้ โรคไข้เลือดออกระบาดมากเป็นพิเศษ แม้จะได้รณรงค์ให้ประชาชนโดยเฉพาะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ได้ปฏิบัติตามหลัก4ป. คือ ปิดฝาโอ่ง ปล่อยปลากินลูกปลา เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ทุก7วัน และปรับปรุงสิ่งแวดล้อมไม่ให้มีน้ำขัง
หากแต่การดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกเมื่อพบผู้ป่วยแล้ว ยังมีการควบคุมเมื่อมีการระบาดให้รวดเร็ว และทันเวลาภายใน 24 ช.ม นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสถานพยาบาล และผู้ป่วยรายแรกต้องได้รับการสอบสวนทุกราย อีกทั้งการบริการจัดการให้มีความพร้อมของทีมควบคุมพาหนะนำโรค (SRRT) ระดับอำเภอและได้มีการพ่นสารเคมีในชุมชนนั้นๆ เน้นบ้านผู้ป่วยและพื้นที่รอบบ้านผู้ป่วย โดยพ่นสารเคมี 2ครั้ง ห่างกัน 7 วัน
อย่างไรก็ตาม การระบาดของโรคไข้เลือดออกคาดว่าสามารถควบคุมได้โดยอาศัยความร่วมมือของชุมชนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด โดยทุกคนต้องร่วมมือกันควบคุมยุงลายและกำจัดลูกน้ำยุงลายในชุมชนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท. ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
.....
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
โรคมือ เท้า ปาก ระบาดหนักที่ อ.วังเหนือ
โดย สำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
25 มิถุนายน 2551 / 09:45:57
ที่มา : http://www.lampang.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=080625094557
สาธารณสุขลำปางเปิดเผยพบยอดผู้ป่วยโรค มือ เท้า ปาก ในเด็กนักเรียนของจังหวัดโดยเฉพาะที่อำเภอวังเหนือพบมากที่สุด
นายแพทย์ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ นายแพทย์9 ด้านเวชกรรมป้องกัน โรงพยาบาลลำปาง เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังเด็กที่ป่วยด้วยโรค มือ เท้า ปาก ตั้งแต่ต้นปี 2551 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้พบว่า มีเด็กที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าวจำนวน 390 คน คิดเป็นอัตราป่วย 50.52 คน ต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งหากเทียบกับปีที่ผ่านมาจะพบว่ามีจำนวนเด็กที่ป่วยเพิ่มมากขึ้น
และยังพบอีกด้วยว่ามีการแพร่กระจายมากที่สุดในอำเภอวังเหนือ รองลงมาคือ อำเภอเมืองปานและอำเภอสบปราบ โรคมือเท้าปากนี้จะแพร่ได้ง่ายกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี และจะเกิดการแพร่ระบาดในช่วงหน้าฝน ในที่ที่มีอากาศเย็นและชื้น การติดต่อของโรคดังกล่าวนั้นจะติดต่อผ่านทางน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและเป็นแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วยแม้กระทั่งการไอ-จามรดกัน โดยเด็กที่ได้รับเชื้อดังกล่าวจะมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมมาอีก 1 –2 วัน จะมีอาการเจ็บที่ปาก ไม่ยอมทานอาหาร ที่บริเวณ ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม มือ และเท้า จะมีตุ่มแดงๆขึ้น และจะพองใสในเวลาต่อมา
เมื่อผู้ปกครองพบเห็นว่าบุตรหลานของท่านมีอาการดังกล่าว ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อดำเนินการรักษาและเพื่อระงับไม่ให้โรคดังกล่าวรุกรามไปสู่คนใกล้เคียง ทางด้านการรักษานั้นในปัจจุปันยังไม่มีวัคซีนหรือยาที่จะทำการรักษาโรคดังกล่าว มีเพียงยาแก้ไข้ แก้ปวด เท่านั้น
ส่วนเด็กที่ป่วยด้วยโรคนี้ให้ควรให้ทานอาหารอ่อนๆ ดื่มน้ำและน้ำผลไม้มากๆ รวมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการการสัมผัสสิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่นแก้วน้ำ และผ้าเช็ดมือ และควรรักษาตัวที่บ้าน อย่างน้อย 7 วัน หรือจนกว่าเด็กจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่สู่เด็กคนอื่น
ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท. ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
.....
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
มูลนิธิไทยคมฯ แจกแลปท็อปบ้านสามขา+เทศบาล 4
โดย สำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
23 มิถุนายน 2551 / 10:53:27
ที่มา : http://www.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=080623105327
รร.บ้านสามขา และ รร.เทศบาล 4 ลำปาง ได้รับเครื่องคอมพิวเตอร์ Lap Top เป็นแห่งแรกในลำปาง โดยเฉพาะบ้านสามขาเด็กนักเรียนได้รับทุกคน
นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาพัฒน์ รองประธานกรรมการมูลนิธิไทยคม กล่าวว่า นับตั้งแต่มูลนิธิฯได้เข้าดำเนินการโครงการ OLPC ( One Laptop Per Child) ในพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยนำเครื่องคอมพิวเตอร์(แลปทอป) ไปทดลองให้นักเรียนในโรงเรียนบ้านสามขา ได้ใช้งานเรียนรู้ในการด้านการศึกษา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร
นอกจากนี้ ได้มีการพัฒนาบุคลากรครูและทีมงานวิจัยโครงการฯ จนประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง เพื่อให้การพัฒนาบุคลากรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการจัดสัมมนาทีมงานอาจารย์และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดลำปาง ที่บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย(ลำปาง) ระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายน 2551
โดยมีทีมวิจัยซึ่งเป็นโรงเรียนเครือข่าย Constructionism และได้รับเครื่อง OLPC จากมูลนิธิไทยคมไปใช้งาน ซึ่งการสัมมนามีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทีมวิจัยได้รับการชี้แจงและทำความเข้าใจในการนำ OLPC ไปใช้เพื่อการเรียนรู้ในชั้นเรียน และหลักการในการทำวิจัยเชิงปฏิบัติ ซึ่ง OLPC จะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ และผู้เรียนสามารถใช้ OLPC เป็นการจุดประกายความกระตือรือร้นในการหาคำตอบให้กับคำถาม หรือปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับตัวผู้เรียน หรือแม้แต่การขยายผลการเรียนรู้ไปยังครอบครัวหรือชุมชน สำหรับผลที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้น
ในแต่ละพื้นที่วิจัยจะได้ลงมือปฏิบัติเพื่อศึกษา ค้นคว้า ทดลอง และต่อยอดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจนเกิดการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด และทำให้ได้ผลงานวิจัยที่มีคุณค่าต่อบุคคลและชุมชนต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ การวิจัยโครงการ OLPC ของมูลนิธิศึกษาพันธ์ฯ ยังได้มอบเครื่องคอมพิวเตอร์ OLPC ใหม่ จำนวน 26 เครื่อง ให้กับโรงเรียนบ้านสามขา รวมกับของเดิมที่มีอยู่อีก 17 เครื่อง รวมเป็นทั้งหมด 48 เครื่อง และมอบให้กับโรงเรียนเทศบาล 4 ของ เทศบาลนครลำปาง อีก จำนวน 47 เครื่อง นับเป็น 2 โรงเรียนแรกของจังหวัดที่ได้รับคอมพิวเตอร์ OLPC ดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มโรงเรียนในภาคเหนือได้รับอีก เช่น กลุ่มเชียงใหม่ มีโรงเรียนบ้านสันกำแพง 300 เครื่อง และ กลุ่มเชียงราย มีโรงเรียนบ้านขาแหย่ง โครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ จำนวน 20 เครื่อง
ข่าวโดย : จันทร์สวย บุญนำมา
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
.....
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
มูลนิธิขาเทียมฯ นำนวัตกรรมใหม่ช่วยช้างแห่งแรกของโลก
โดย ผู้จัดการออนไลน์
23 มิถุนายน 2551 10:52 น.
ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000073485
ลำปาง - มูลนิธิขาเทียมในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครรินทราบรมราชชนนี ทดลองสร้างขาเทียมให้พังโม่ชะ โดยใช้นวัตกรรมใหม่ถุงเมล็ดโฟมทำเบ้าสร้างขาเทียมให้สัตว์แห่งแรกของโลกรายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า
เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิขาเทียมฯ นำโดย รศ.นพ.เทอดชัย ชีวะเกตุ เลขาธิการมูลนิธิขาเทียมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเพื่อนช้างจังหวัดลำปาง ได้ทดลองทำขาเทียมเพื่อสวมให้กับพังโม่ชะ อายุ 2 ปี 7 เดือน ซึ่งเดิมพังโม่ชะเหยียบกับระเบิดจนเท้าขวาขาด ขณะอายุได้ 7 เดือน และเข้ารักษาตัวที่มูลนิธิเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549
แพทย์ได้ทำการรักษาจนแผลที่เท้าหายสนิทแล้ว จึงได้ทดลองทำขาเทียมเพื่อสวมให้กับพังโม่ชะ เนื่องจากหากปล่อยไว้เช่นนี้พังโม่ชะอาจจะพิการเนื่องจากต้องเดิน 3 ขาและน้ำหนักจะไปอยู่ที่ขาซ้ายซึ่งจะทำให้ขาอาจจะรับนำหนักที่เพิ่มขึ้นไม่ไหวโดยมูลนิธิขาเทียมฯ ได้ทดลองนำนวัตกรรมใหม่ ซึ่งยังไม่เคยทดลองใช้ทำขาเทียมสำหรับสัตว์มาก่อน คือการนำถุงเมล็ดโฟม มาทำเบ้า ซึ่งเป็นส่วนแรกของการทำขาเทียมสำหรับพังโม่ชะ
ในครั้งนี้ โดยส่วนประกอบของขาเทียมมีด้วยกัน 3 ส่วน คือ
เบ้า คือ ส่วนของขาเทียมที่สวมกับตอขา ที่ยังมีอยู่
แกนหน้าแข้ง คือ ส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างเบ้ากับเท้า
และเท้าเทียม คือ ส่วนปลายล่างสุดของขาเทียมที่สัมผัสพื้นดิน
ซึ่งได้ทดลองนำถุงเมล็ดโฟมทำเบ้าเป็นผลสำเร็จ จากเดิมที่จะต้องใช้การทำเฝือกปูนและต้องใช้เวลานานแต่การใช้นวัตกรรมใหม่นี้ใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้นตลอดเวลาในการทำเบ้าพังโม่ชะ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และหลังจากนี้ทางมูลนิธิจะได้ตกแต่งเบ้าและทำส่วนที่2และ3 ต่อไป ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน ในการประกอบ
สำหรับการนำถุงเมล็ดโฟมมาทำเบ้าเพื่อสร้างขาเทียมให้สัตว์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของโลก เนื่องจากทางแพทย์เพิ่งนำวิธีการดังกล่าวมาทดลองใช้กับคนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแต่สำหรับสัตว์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
เครือข่ายแม่เมาะ ความเข้มแข็งบนการดิ้นรนต่อสู้
24 มิถุนายน 2551
โดย ประชาไทออนไลน์
ที่มา : http://prachatai.com/05web/th/home/12631
รายงานจากผู้สื่อข่าวแจ้งว่าเมื่อเร็วๆนี้นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ นายอำเภอแม่เมาะได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมสมาชิกเครือข่ายฯหลังจากที่ได้รับ ทราบข้อมูลจากนางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายฯ ว่าถูกข่มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบจากทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนอย่างหนักถึงขั้นทำร้ายร่างกายชาวบ้านที่ทำหน้าที่เฝ้าศูนย์การเรียนรู้เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะจนสมาชิกหวาดกลัว อันเนื่องมาจากกรณีพิพาทระว่างชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและกลุ่มผู้มีอิทธิพล เรื่องที่ดินรองรับระว่างการอพยพโยกย้ายราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าและเหมืองถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะจังหวัดลำปาง
จากกรณีปัญหาการอพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมการผลิตกระแสไฟฟ้าและทำเหมืองถ่านหินในบริเวณที่อยู่อาศัยโดยรอบๆจำนวน 4 หมู่บ้านที่ยืดเยื้อยาวนานจากการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการฝ่ายการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ไม่ปฏิบัติตามมติที่ประชุมและมติคณะรัฐมนตรีเน้นการแทรกแซงจนทำให้เกิดการขัดแย้งทางความคิดของชาวบ้านและนำไปสู่ การแตกแยกของชาวบ้านและถึงขั้นแบ่งกลุ่มกันในที่สุดและเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์ซึ่งมีทั้งนายทุน-พนักงานการไฟฟ้าเองและนักการเมืองหลายระดับเข้าจับจองพื้นที่รองรับการอพยพจำนวนกว่า1,000 ไร่ โดยที่เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมิได้เข้าปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใดตลอดระยะเวลายาวนานที่ผ่านมา
แต่ด้วยความขับเคลื่อนของเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะและบวกเสริมการเอาจริงของนายอำเภอแม่เมาะคนใหม่นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ ทำให้มีการจับกุมผู้ที่กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 51 ที่ผ่านมา และได้สร้างความ โกรธแค้นต่อผู้ที่เสียผลประโยชน์ที่เป็นนายทุนขาใหญ่จึงได้ไปให้คนที่มีสีดังกล่าวมาทำร้ายร่างกายและข่มขู่คุกคามชาวบ้านที่มีสิทธิในการเข้าอยู่อาศัยตามมติคณะรัฐมนตรีและมติคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อกดดันให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อนให้หวาดกลัวและเปลี่ยนใจไม่อพยพตามใบสั่งฝ่ายมวลชน
นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ นายอำเภอแม่เมาะ กล่าวหลังจากเข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่ประเด็นปัญหาว่า “จากนี้ต่อไปตนจะไม่ยอมให้ใครกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องอีกทุกฝ่ายต้องหยุดคุกคามชาวบ้านเพราะว่าการแบ่งกันพื้นที่สำหรับรองรับการอพยพนี้ถือเป็นนโยบายที่รัฐได้บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชุมชนหากใครยังมีการกระทำการใดๆเช่นนี้อีกตนเองจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดแน่นอน” พร้อมยืนยันกับชาวบ้านที่เป็นกลุ่มสมาชิกเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะว่าขณะนี้ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดเพื่อเร่งรัดให้มีการสำรวจรังวัดชี้แนวเขตที่ดินรองรับการอพยพฯทั้ง 493แปลงเพื่อให้มีการ ออกโฉนดชุมชนให้แก่ชาวบ้านเหล่านี้ต่อไป
ต่อคำถามที่ว่ากรณีผู้ที่ได้ครอบครองที่ดินเกินกว่าที่รัฐกำหนดให้จะดำเนินการอย่างไร นายอำเภอแม่เมาะ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมายเพราะว่าชาวบ้านทุกคนทั้ง 493 ครอบครัวมีสิทธิในแปลงรองรับการอพยพคนละ 1 ไร่ตามมติคณะรัฐมนตรีเท่านั้น ตนเองมาอยู่ที่นี่เพียง 5 เดือน แต่ก็ได้ทำงานหนักเหมือนกับอยู่มาแล้ว 3 ปีด้วยปัญหาใหญ่ที่พบคือเรื่องการอพยพชาวบ้านตามมติคณะรัฐมนตรีที่ฝ่ายการไฟฟ้าฝ่ายผลิตต้องจริงใจและต้องเร่งรัดแก้ปัญหาด้วยเพราะปัญหาที่เกิดมาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะหากผู้สร้างปัญหาหยุดเพิ่มปัญหาแล้วแก้ไขตามที่ชาวบ้านร้องขอทุกอย่างยุติแน่ ผมรับรอง”
และขณะเดียวกันก็พบว่าเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะที่เป็นองค์ชาวบ้านที่มีส่วนสำคัญในการอพยพครั้งนี้กลับเป็นกลุ่มชาวบ้านที่มีความเข้มแข็งที่สุดและมีพัฒนาการที่น่าสนใจ จากการพยายามช่วยเหลือตนเองในการทำกิจกรรมร่วมกันมีการรวมกลุ่มผลิตสินค้าหลากหลายรูปแบบออกมาขายด้วยการระดมทุนภายในและมีแนวคิดที่สร้างสรรค์ ตนประทับใจกับผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นแนวคิดที่อ่อนโยนและมากมายด้วยศิลปและการตนตรีผสมผสานของสมาชิกกลุ่มซึ่งเป็นคนละเรื่องกับภาพลักษณ์ของเครือข่ายที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มต่อต้านพลังงานและพร้อมที่จะหนุนเสริมทั้งทางด้านการส่งบุคลากรเข้ามาอบรมพัฒนาฝีมือ และเตรียมนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเพื่อ ยกระดับเป็นสินค้าโอทอปของอำเภอและจังหวัดต่อไป
ด้านนางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าวว่ารู้สึกเห็นใจนายอำเภอเพราะว่าจะต้องพบกับปัญหาอุปสรรคอีกมากมายทางด้านการปกครองด้วยระบบการเงินอุปถัมภ์ที่มีมายาวนาน เพราะว่า “อำเภอแม่เมาะเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศและต่างประเทศคู่ขนานกับคำว่า “เครือข่ายสิทธิผู้ป่วย” แม่เมาะ เพียงแค่เปิดเข้าไปดูในอินเตอร์เน็ตก็จะค้นพบว่าเป็นบันทึกที่ยาวนานแห่งประวัติการต่อสู้ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรัฐทางด้านพลังงาน
ทั้งนี้ตนเองและสมาชิกทุกคนในเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะได้ร่วมกันสร้างภูมิต้านทานทางวัฒนธรรมการรอของบประมาณการเงินอุดหนุนฟรี ด้วยการพึ่งตนเองก่อนแล้วจึงรับการช่วยเหลือจากสังคมในรูปแบบขายความคิดด้วยความยากลำบากด้วย
ถึงแม้ว่าอำเภอแม่เมาะคืออำเภอที่รวยที่สุดของประเทศไทยจากเงินสนับสนุนกองทุนชุมชนรอบๆโรงไฟฟ้า ที่ได้มาจากพลังงานถ่านหินกว่า 300 ล้านบาทต่อปี และกองทุนอื่นๆอีกมากมาย ต่อประชากรประมาณ 30,000กว่าคน นั่นไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งจริง แต่กลับจะทำให้ชุมชนอ่อนแอยิ่งขึ้นและตกอยู่ในสภาพทำตามคำสั่งของผู้ที่กำกับโครงการต่างๆ และในที่สุดผู้ที่อ่อนแอ และอ่อนหล้าจะถูกเบียดออกจากพื้นที่และเปิดเนื้อที่ให้ผู้แข็งแรงกว่าเข้ามาแบ่งปันโครงการปั้นกินกันเอง
เรามองภาพกองทุนนี้เป็น “กองทุนบาป” เพราะมันถูกก่อตั้งขึ้นมาจากการเรียกร้องของผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบอย่างพวกเรา และหลายร้อยคนเขาได้เสียชีวิตไปแล้วระหว่างรอกองทุนเพื่อการเยียวยาเราไม่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมกับกองทุนที่ไม่บริสุทธิ์นี้แต่เราจะจับตาดูการใช้เงินจากกองทุนทุกสตางค์แดงว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ที่เสียชีวิตเพราะการรอคอยเหล่านั้นหรือไม่ ถึงแม้จะสิ้นลมหายใจไปอีกกี่คนก็ตามเราจะถือว่าบาปกรรมหนักจากการกระทำของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องผลกระทบโดยเฉพาะผู้บริหาร กฟผ. ครั้งนี้ ต้องเป็นบทเรียนที่มวลมนุษยชาติศาสนาพุทธไม่มีวันลืม
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
กิ่วลมวิทยาชนะตอบปัญหาประชาธิปไตยระดับจังหวัด
23 มิถุนายน 2551 / 17:20:01
โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
ที่มา : http://www.lampang.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=080623172001
โรงเรียนกิ่วลมวิทยา อ.เมืองลำปาง ชนะเลิศการแข่งขันตอบปัญหา ประชาธิปไตย ในระดับเรียนมัธยมปลาย รอบคัดเลือกระดับจังหวัด
ที่ห้องประชุมสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดลำปาง นายสมบูรณ์ วงศ์โสม ผู้อำนวยการสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย จ.ลำปาง เป็นประธานเปิดการแข่งขันตอบปัญหาประชาธิปไตย นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ( ม. 4) รอบคัดเลือก ระดับจังหวัด โดยมีทีมโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำปางเขต 1 คัดเลือกเข้าแข่งขัน 6 โรงเรียน ได้แก่ ทีมโรงเรียนลำปางกัลยาณี รร.เขลางค์นคร รร.กิ่วลมวิทยา รร.ห้างฉัตรวิทยา, รร.โป่งหลวงวิทยารัชมังคลาภิเษก และโรงเรียนแม่เมาะวิทยา ซึ่งแต่ละทีมมีนักเรียนเข้าแข่งขัน 3 คน และคณะอาจารย์จากสถานศึกษา
โดยมีคำถามเกี่ยวกับการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 จำนวน 20 ข้อ
ผลการแข่งขันปรากฎกว่า ทีมโรงเรียนกิ่วลมวิทยา อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นผู้ชนะเลิศ ได้คะแนนนำ 16 คะแนนจากคำถามทั้งหมด 20 ข้อ โดยได้รับรางวัลเงินสด 1,200 บาทพร้อมเกียรติบัตร และเป็นตัวแทนของเยาวชนจังหวัดลำปางเข้าแข่งขันในระดับภาคที่จังหวัดเชียงใหม่ และทีมโรงเรียนอีก 5 แห่ง ได้รับรางวัลชมเชย
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจให้กับเยาวชน รวมถึงเป็นเครือข่ายเยาวชน ในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยสู่สถานศึกษา
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
ลำปางจัดเวทีสภาผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม
24 มิถุนายน 2551 / 11:09:27
โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
ที่มา : http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080624110927
จังหวัดลำปางจัดเวทีสภาผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมเพื่อให้ผู้บริโภคในระดับจังหวัดสะท้อนปัญหาและรับรู้สิทธิขั้นพื้นฐานในระบบโทรคมนาคมของผู้บริโภค พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 200 คน ที่ห้องประชุมวังธาร โรงแรมรีเจ้นท์ ลอร์ด ลำปาง
นายศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า การจัดงานเวทีสภาผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ดำเนินการโดย สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมปัญหาในกิจการโทรคมนาคมที่เกิดขึ้นต่อผู้บริโภคในภูมิภาคต่างๆ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคและผู้ให้บริการได้รับฟังความคิดเห็นของแต่ละภาคส่วน เพื่อรับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้บริโภค
ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายเป็นเครือข่ายผู้บริโภคในพื้นที่ลำปางและจังหวัดใกล้เคียง หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ ผู้สนใจทั่วไป และสื่อมวลชน ภายในงานมีการฉายวิดีทัศน์ความเป็นมา บทบาทและอำนาจหน้าที่ของสถาบันฯ การแสดงละครสะท้อนปัญหาของผู้บริโภค เรื่อง โทรอย่างมีคุณภาพ และมีการเสวนาสถานการณ์ปัญหาและประสบการณ์การแก้ปัญหาของผู้บริโภคด้านโทรคมนาคม เวทีวิชาการทิศทางเครือข่ายผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม จังหวัดลำปาง
ซึ่งลำปางถือเป็นหนึ่ง 12 จังหวัด ที่มีการจัดเวทีสภาผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมและเป็นหนึ่งใน 26 จังหวัดนำร่องของที่มีศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม.
ข่าวโดย : เสน่ห์ เชียงลา
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
แผนส่งน้ำแม่วัง-กิ่วลมใช้ปลูกข้าวนาปี
23 มิถุนายน 2551 / 14:54:44 โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
ที่มา : http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080623145444
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วัง-กิ่วลม มีแผนส่งน้ำเพื่อเพาะปลูกข้าวนาปี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง ได้รับแจ้งจาก สำนักงานเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดลำปางว่า
ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วัง-กิ่วลม มีแผนการส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ประจำปี 2551 ของคลองส่งน้ำสายใหญ่กิ่วลมฝั่งขวา คลองส่งน้ำสายใหญ่แม่วังฝั่งขวา และคลองส่งน้ำสายใหญ่แม่วังฝั่งซ้าย ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วัง-กิ่วลม จำนวน 111,600 ไร่ อยู่ในเขตบางส่วนของอำเภอเมือง อำเภอเกาะคา และอำเภอแม่ทะ โดยได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว
สำหรับการส่งน้ำนั้นจะส่งตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไปและหยุดส่งน้ำเป็นบางช่วงในแต่ละเดือนจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2551 นี้.
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
โครงการต่อเนื่องจาก "เฮาฮักนครลำปาง" : "บ้านลำปางงาม" และ"บ้านดาวลำปางลานนา"
23 มิถุนายน 2551 / 08:28:33
โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
ที่มา : http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080623082833
ผู้ว่าดิเรกฯ ประกาศติดดาวให้"บ้านลำปางงาม" และ"บ้านดาวลำปางลานนา" เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลรักษา ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
นายดิเรก ก้อนกลีบ กล่าวในพิธีเปิดโครงการ เฮาฮักนครลำปางว่า จังหวัดลำปางมีโครงการให้ประชาชนลำปางร่วมสร้างสีสันโดยการตกแต่งหน้าบ้านให้สวยงาม ด้วยต้นไม้ ดอก ไม้ประดับ จัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเฉพาะบ้านที่ติดกับถนนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมและเป็นแบบอย่างที่ดี
สำหรับบ้านหลังไหนที่มีการตกแต่งสวยงาม มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย จังหวัดลำปางจะมอบป้าย ”บ้านดาวลำปางงาม” ให้เพื่อประกาศเกียรติคุณ แสดงว่าบ้านหลังนี้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการของจังหวัดเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้หากบ้านหลังใดที่สามารถอนุรักษ์บ้านโบราณ หรือบ้านที่เก่าแก่มีการบำรุงรักษา ทำความสะอาด พร้อมตกแต่งให้สวยงาม จังหวัดลำปางก็จะมอบป้ายประกาศเกียรติคุณ “บ้านดาวลำปางลานนา” ให้ทันทีพร้อมกับเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมและเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลรักษาอีกด้วย
ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมกันตกแต่งบ้านเพื่อสร้างสีสันเมืองลำปางให้น่าเยี่ยมชม เป็นระเบียบและเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป.
ข่าวโดย : นงค์เยาว์ ปัจจามิตร์
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
รับส่งนักเรียน ฟรี ลดภาระผู้ปกครองยุคน้ำมันแพง เปิดสายแรกเก๊าจาว-อาชีวฯ
25 มิถุนายน 2551 / 15:59:13
โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
ที่มา : http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080625155913
จังหวัดลำปางเปิดโครงการรับส่งนักเรียน ฟรี ลดภาระผู้ปกครองยุคน้ำมันแพง
นายบุญเสริม สบายฤทัย ขนส่งจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง (นาย ดิเรก ก้อนกลีบ) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัดลำปางว่า “เฮาฮ่วมกั๋นแป๋งฮื้อนครลำปาง ม่วนจื้นตึงคนอยู่คนเยือน” (ลำปางนครผาสุกทั้งคนอยู่ทั้งคนเยือน) และกำหนดยุทธศาสตร์ในการสร้างลำปางเป็นนครคุณภาพชีวิตที่ดีและสังคมผาสุก
จึงได้จัดรถยนต์ชุมชนเมืองที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากสินค้าอุปโภคบริโภคและค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่มีราคาแพงอีกทั้งยังเป็นการลดปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ขนส่งจังหวัดลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อดำเนินการตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีแนวคิดในการทำโครงการที่สอดคล้องวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของจัวหวัด โดยดำเนินการสำรวจเส้นทางเดินรถรับส่งนักเรียน
ในเบื้องต้นทำการสำรวจไว้ 3 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางตลาดรัตน์ – วิทยาลัยอาชีวะลำปาง
เส้นทางวงกลมห้าแยกหอนาฬิกา(ถนนฉัตรไชย-วิทยาลัยเทคนิค)
และเส้นทางวงกลมห้าแยกหอนาฬิกา(ถนนบุญวาทย์-ถนนรอบเวียง)
โดยเส้นทางที่ผ่านการพิจารณาจากจังหวัดเพื่อจัดให้มีการรับส่งนักเรียน ได้แก่
เส้นทางตลาดรัตน์-วิทยาลัยอาชีวะลำปาง ระยะทางรวม 5.7 กิโลเมตร สำหรับรถที่จะนำมาให้บริการเป็นรถยนต์โดยสารของโรงเรียนลำปางเทคโนโลยี จำนวน 24 ที่นั่ง เพื่อรับส่งนักเรียนนักศึกษาที่จะเดินทางจากที่พักไปยังสถานศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ โรงเรียนผดุงวิทย์ โรงเรียนเทศบาล 5 โรงเรียนมัธยมวิทยา โรงเรียนอรุโณทัย โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง โรงเรียนลำปางกัลยาณี โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย และวิทยาลัยอาชีวลำปาง
จึงประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักเรียน นักศึกษาของสถานศึกษาดังกล่าวใช้บริการได้ในช่วงเช้า 06.00 น. และช่วงเย็น 15.30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2551 นี้ จังหวัดลำปางจะได้จัดให้มีพิธีเปิดการให้บริการรถรับส่งนักเรียนเที่ยวแรก ณ บริเวณตรงข้ามตลาดรัตน์ (ตลาดเก๊าจาว) คาดว่าจะมีผุ้สนใจใช้บริการเป็นจำนวนมากเนื่องจากการเดินรถใช้เวลาตลอดเส้นทางเพียง 45 นาทีเท่านั้นขนส่งจังหวัดลำปางกล่าวในที่สุด.
ข่าวโดย : นงค์เยาว์ ปัจจามิตร์
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
โครงการต่อเนื่องจาก "เฮาฮักนครลำปาง" : โรงเรียนพอเพียง
23 มิถุนายน 2551 / 10:04:25
โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
ที่มา : http://www.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=080623100425
ผู้ว่าฯ ลำปางเตรียมเปิดตัวโครงการ "โรงเรียนชีวิตพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ" หนุนให้เปิดอำเภอละ 1 โรงเรียนเพื่อให้ประชาชนอยู่ได้ในภาวะน้ำมันแพง
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมาในพิธีเปิดโครงการ เฮาฮักนครลำปาง ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จังหวัดลำปางจะเปิดตัวโครงการ “โรงเรียนชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดำริ” เพื่อเป็นแนวทางให้ประชาชนได้ศึกษา หาความรู้เรื่องเกษตรประณีตทุกรูปแบบ
อาทิ การนำความรู้ของเผ่ากะเหรี่ยงหลังพักพิงการสู้รบคือการปลูกพืชแนวดิ่ง และแนวราบ คือนำใบไม้มาป่นอัดเป็นถ่านแล้วนำตะใคร้หอมป่นอัดตามถ่านที่ได้จะเป็นถ่านกลิ่นตะใคร้หอมหรือเรียกชื่อเต็มว่า “ถ่านสมุนไพรใบไม้อัดแท่ง” สำหรับถ่านที่ผลิตออกมาได้สามารถนำไปขายตามร้านหมูกะทะ
ร้านอาหารในพื้นที่จังหวัดลำปางหรือร้านที่มีความประสงค์จะใช้ถ่านสมุนไพรใบไม้อัดแท่ง ซึ่งจะเป็นสินค้าที่แปลก ใหม่ ต้นทุนต่ำขายได้ในราคากิโลกรัมละ 10 – 18 บาท อย่างไรก็ตามทางจังหวัดจะได้หารือกับวิทยาลัยเทคนิคลำปาง วิทยาลัยสารพัดช่างเพื่อผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมและสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนพร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพ รายได้ให้กับประชาชนอยู่ได้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ จะสามารถเปิดตัวโครงการนี้อย่างแน่นอน.
ข่าวโดย : นงค์เยาว์ ปัจจามิตร์
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
โครงการเฮาฮักนครลำปาง โปรเจ็กต์ผู้ว่าฯอีกแล้ว
21 มิถุนายน 2551 / 13:19:25 โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่
ที่มา : http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080621131925
คนลำปางร่วมพิธีเปิด โครงการเฮาฮักนครลำปางอย่างคึกคักกว่า 1,000 คน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
เมื่อเช้าวันนี้ (21 มิ.ย. 51) นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ประธานในพิธีเปิด โครงการเฮาฮักนครลำปาง กล่าวว่า โครงการนี้เพื่อให้ประชาชนได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของนครลำปาง หากทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมและให้ความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานทุกด้าน ทั้งของภาคราชการ ภาคเอกชนและภาคประชาชน
สำหรับการจัดงานครั้งนี้เพื่อปลุกจิตสำนึกและจิตวิญญาณแห่งการรักท้องถิ่นและให้กลุ่มเป้าหมายมุ่งทำความดีเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าสัมมนาประกอบด้วย กรรมการชุมชนในเขตเทศบาลนครลำปาง คนขับรถยนต์ตู้รับจ้าง คนขับรถยนต์สองแถวรับจ้างและสามล้อรับจ้าง คนขับรถม้า กรรมการสมาคมรถม้าและกรรมการและสมาชิกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง ตลอดจนพ่อค้าประชาชนกว่า 1,000 คน
และในภาคบ่ายได้มีการระดมสมอง โดยแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ให้ระดมความคิดเรื่อง อยู่จะใดฮื้อสุขพอเพียงตามแนวพระราชดำริ และเรื่องยะจะใดฮื้อได้จื้อว่าเฮาฮักนครลำปางของเรา
ต่อจากนั้นได้ร่วมสรุปประเด็น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นเพื่อผลักดันให้ทุกคนได้ตอบแทนบุญคุรแผ่นดินตลอดจนให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกันพัฒนาท้องถิ่นต่อไป.
ข่าวโดย : นงค์เยาว์ ปัจจามิตร์
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
.......
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
พฤหัส 26
มิถุนา 51
วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2551
หลักกิโลเมตรแยกห้าเชียง ราคาที่ 2.8 ล้านบาท
หลักกิโลเมตรแยกห้าเชียง บริเวณแยกภาคเหนือหรือแยกเมโทรเดิม
หลักกิโลเมตรแยกห้าเชียง อีกโปรเจ็กต์ของจังหวัดลำปาง โดยฝีมือการออกแบบของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลำปาง ถือว่าเป็นอีกความพยายามหนึ่งที่จะสร้างจุดเด่น จุดขายสัญลักษณ์ในบริเวณที่ถือกันว่าเป็น "ประตูสู่ภาคเหนือ" ถึงกับใช้ชื่อว่า "แยกห้าเชียง" เป็นอีกโครงการที่ทำกันอย่างเงียบๆ แต่รวดเร็วโดยจังหวัดลำปาง
ข้อมูลโครงการ
โครงการก่อสร้างหลักกิโลเมตรแยกห้าเชียง
ผู้ออกแบบ : สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลำปาง กรมโยธาธิการและผังเมือง
ผู้ว่าจ้าง : จังหวัดลำปาง
ผู้รับจ้าง : ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลำปางไพศาลก่อสร้าง
ระยะเวลา : เริ่มต้นสัญญา 28 มีนาคม 2551 สิ้นสุดสัญญา 25 กรกฎาคม 2551
ค่าก่อสร้าง : 2,893,000 บาท
on Lampang POST
อาทิตย์ 22
มิถุนา 51
ฝายน้ำล้นแม่น้ำวัง 34 ล้านบาท ต.ชมพู
ภาพถ่ายเมื่อ 24 พฤษภาคม 2551
ผ่านไปแถวๆ ริมน้ำวัง บ้านต้า ต.ชมพู เห็นมีงานก่อสร้างขนาดใหญ่ คิดๆดูแล้ว โครงการขนาดนี้น่าจะเป็นที่รับทราบกันอย่างเป็นสาธารณะจึงนำข้อมูลมาฝากกัน
หน่วยงาน : สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค1 กรมทรัพยากรน้ำ
โครงการก่อสร้างฝายน้ำล้นแม่น้ำวัง
-ฝายน้ำล้น ชนิดฝายสันมน มีบานระบาย ความยาวสันฝาย 115.75 ม. ความสูงสันฝาย 3.00 ม.
-ประตูระบายน้ำ ชนิดบาน SLIDE GATE ขนาด 1.50x2.00 ม. จำนวน 10 บาน
ผู้รับเหมา : หจก.ลำปางสุธีคอนสตรัคชั่น
สัญญาเลขที่ สทภ. 1/39/2551
เริ่มต้น 27 กุมภาพันธ์ 2551 สิ้นสุด 20 กุมภาพันธ์ 2552
ระยะเวลาก่อสร้าง 360 วัน
วงเงินค่าก่อสร้าง 34,385,555 บาท
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
อาทิตย์ 22
มิถุนา 51