ป้ายบอกทางตกแต่งลายรถม้า อ.เมือง จ.ลำปาง ที่มา : โปสการ์ด จาก "ร้านม้าหมุน" http://marsmoon.hi5.com

บทบรรณาธิการ


>>>on Lampang POST <<< ยินดีต้อนรับทุกท่าน สู่มหาสมุทรแห่งข้อมูลข่าวสารลำปางนับแต่นี้ไป


เรื่องใหญ่ และเรื่องสำคัญของสังคมไทย ที่ไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่กันเท่าใดนัก ก็คือระบบฐานข้อมูล การจัดทำระบบหอจดหมายเหตุ โดยเฉพาะลำปางเอง ข้อที่น่าตกใจคือว่า ลำปางเคยมีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ ปีพ.ศ.2492 คือ ไทยลานนา และ เอกราช ในปีพ.ศ.2500

แต่ลำปาง ขาดโครงสร้างพื้นฐานที่จะเก็บสิ่งตีพิมพ์ดังกล่าว (ยังไม่ต้องนับถึงสื่อสิ่งพิมพ์ และข้อมูลอีกจำนวนมหาศาลที่ขาดการจัดเก็บเป็นข้อมูลให้คนรุ่นหลังค้นคว้า ศึกษา) เราจึงไม่สามารถหาต้นฉบับหนังสือพิมพ์ดังกล่าว เพื่อค้น "ประวัติศาสตร์" และ "เรื่องราวลำปาง" แม้ในระยะสั้นๆ เพียง 50 -60 ปี

เชื่อว่าอีกไม่นานเรื่อง "น้ำท่วมใหญ่ลำปาง 2548" ที่สร้างความพินาศเสียหายอย่างใหญ่หลวง ก็คงจะเป็นเพียงเรื่องเล่าจากความทรงจำจางๆ เช่นเดียวกับที่เหตุภัยพิบัติทั้งหลายที่เกิดกับลำปางแต่มิได้รับการบันทึก ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ตลาด น้ำท่วม คนประสบภาวะหิวโหย...ทั้งหลายทั้งปวงจะไม่สามารถสืบค้นทางประวัติเอกสารได้แน่ชัด...และถูกหลงลืมไปในที่สุด

หากไม่มองโลกในแง่ร้ายนัก ในโลกคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต อันเป็นโอกาสอันกว้างขวางที่สามารถย่นเวลา และระยะทางการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมหาศาล วันนี้ขณะที่ seacrh หาข้อมูลข่าวทำให้ได้พบกับเว็บไซต์หนึ่งนามว่า http://www.lampang2u.com/ เว็บนี้มีความพยายามอย่างยิ่งในการเก็บรวบรวมฐานข้อมูลร้านค้าลำปาง และข่าวท้องถิ่นลำปางได้อย่างน่าชื่นชม

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวยังมีไม่เพียงพอ ยังคับแคบเกินไป เมื่อเทียบกับความกว้างขวางในโลกไซเบอร์ พื้นที่ตรงนี้ จึงอาสาที่จะออกมาเพื่อรองรับกับ ข้อมูล ข่าวสาร และสถิติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับลำปาง ในปัจจุบันสมัย เท่าที่จะมีกำลังจะทำได้ ขณะเดียวกันก็มองลู่ทางของเครือข่ายในมหาสมุทรแห่งข้อมูลของลำปางไปด้วย

ขณะที่ on Lampang : เปิดโลกลำปาง ก็ทำอีกหน้าที่หนึ่งในการรวบรวมฐานข้อมูล และข่าวสารทางศิลปวัฒนธรรมอันเป็นรากฐานสำคัญหนึ่งของลำปาง ซึ่งคนละบทบาทกับที่แห่งนี้ จึงถือว่า บทนำนี้เป็นการเริ่มนับหนึ่ง ที่ออกก้าวเพื่อวันข้างหน้า ดังที่ เอนก นาวิกมูล นักเขียนสารคดีชื่อดัง เคยบอกไว้ว่า "เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า"

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ on Lampang POST
ศุกร์ 2
พฤษภา 51

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เปิดพิพิธภัณฑ์หีดพระธัมม์ วัดปงสนุกใต้ คนล้นหลาม


ผู้คนหลากหลาย เข้าร่วมงานเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551


บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์หีดธัมม์

บรรยากาศพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์หีดพระธัมม์"หีดธัมม์รัตนานุรักษ์อนุสรณ์"
เมื่อวันพฤหัสที่ 22 พฤษภาคม 2551ณ อาคารห้องสมุดประชาชนอำเภอเมืองลำปาง วัดปงสนุกใต้ อ.เมือง ลำปางเวลา 15.30 น. มีการทำบุญทักษิณานุประทาน แด่หลวงพ่อพระครูรัตนานุรักษ์ นำโดยเจ้าคณะจังหวัดลำปาง พระราชธรรมาลังการ และพระจินดารัตนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดลำปาง

ราว 17.00 น. ดร.นิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวรายงาน ต่อด้วยการบรรยายความเป็นมาโครงการ โดย ผ.ศ.วรลัญจก์ บุณยสุรัตน์ ภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่ รวมไปถึง คุณอนุกูล ศิริพันธุ์ ประธานชุมชนบ้านปงสนุกด้วย หลังจากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัด ชาย พานิชพรพันธุ์ ก็กล่าวเปิดงาน แล้วร่วมชมนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์หีดพระธัมม์ มีประชาชน และสื่อมวลชนร่วมงานคับคั่ง

หลังจากชมนิทรรศการเสร็จ ก็มีการบรรยาย ผลการดำเนินงาน โครงการอนุรักษ์ศิลปกรรมในเขต อ.แม่ทะ โดย คุณเมธี เมธาสิทธิ สุขสำเร็จ ศูนย์โบราณคดีภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้เห็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าอีกมาก รวมทั้งวิธีการศึกษา ให้ความรู้และการจัดการร่วมกันระหว่างนักวิชาการ วัดและชุมชน
ที่น่าสนใจก็คือ รองฯ ชาย เกริ่นว่า ลำปางน่าจะมีหอศิลป์ฯ ที่แสดงผลงานศิลปะในลำปาง และแนะให้เทศบาลฯ ทำเรื่องขอไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ใช้ศาลากลางหลังเก่าเป็นหอศิลป์ฯ
...........
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

ศุกร์ 23
พฤษภา 51

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

นิด้าดูเหมืองแม่เมาะ หาศักยภาพแร่ลิกไนต์อาเซียน-จีน

นิด้า ศึกษาข้อมูลเหมือง และโรงไฟฟ้า กฟผ.แม่เมาะ
ที่มา : ลานนาโพสต์ออนไลน์
http://www.lampangpost.com/local/news2.htm

นิด้า ศึกษาข้อมูลเหมือง และโรงไฟฟ้า กฟผ.แม่เมาะ

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2551 คณะเจ้าหน้าที่ ศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนาคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ได้เดินทางมาศึกษาข้อมูลการทำเหมืองและโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แม่เมาะ ซึ่งได้รับมอบหมายจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ที่ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยเรื่อง “โครงการศึกษาศักยภาพการแข่งขันผลกระทบ และแนวทางปรับตัวอุตสาหกรรมแร่ และอุตสาหกรรมพื้นฐานภายใต้ความตกลง อาเซียน-จีน”

โดยมีคุณพินิจ เสมอวงษ์ วิศวกรระดับ 11 (ชชป.) และนายโอภาส จริยภูมิ นักธรณีวิทยาระดับ 10 ให้ข้อมูลพร้อมทั้งบรรยายสรุป เกี่ยวกับภารกิจของสายงานเชื้อเพลิง ในการจัดหาเชื้อเพลิงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าและภารกิจของเหมืองแม่เมาะในการขุดขนถ่านเพื่อส่งให้กับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ตลอดจนเทคโนโลยีการทำเหมืองเพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุน รวมถึงการนำถ่านหินมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า

ซึ่งคณะฯ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และได้ซักถามข้อมูลด้านต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ คณะวิจัยจะได้นำไปใช้ในการศึกษาศักยภาพและขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ลิกไนต์ของไทย ภายใต้ความตกลงอาเซียน-จีน.
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

พุธ 21
พฤษภา 51

ผู้ว่าฯ ปาขี่รถถีบโตยฮอยอลัมภางค์เขลางค์นคร 25 พ.ค.นี้


ผู้ว่าฯลำปาง แถลงข่าวบริเวณอาคารพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยพาณิชย์
ภาพจาก http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080521145602

พ่อเมืองลำปาง จัดโครงการ " ผู้ว่าฯ ปาขี่รถถีบโตยฮอยอลัมภางค์เขลางค์นคร " เพื่อลดภาวะโลกร้อน และตามรอยประวัติศาสตร์
21 พฤษภาคม 2551 / 14:56:02
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่

http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080521145602

พ่อเมืองลำปาง จัดโครงการ " ผู้ว่าฯ ปาขี่รถถีบโตยฮอยอลัมภางค์เขลางค์นคร " เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและให้ประชาชนชาวลำปางได้ตระหนักถึงภาวะโลกร้อน จะได้ร่วมมือกันเป็นการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นการศึกษาตามรอยประวัติศาสตร์ของเมืองลำปาง

เมื่อวานนี้ ( 20 พ.ค.2551) เวลา 16.00 น. นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดแถลงข่าว โครงการ "ผู้ว่าฯ ขี่รถถีบโตยฮอยอลัมภางค์เขลางค์นคร” ที่อาคารพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลำปาง ถนนฉัตรไชย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง

โดยเปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้โลกตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนและปัญหามลพิษที่เกิดจาการใช้ เครื่องยนต์และปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อร่างกาย ซึ่งต้องเร่งป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกาย และร่วมกันลดภาวะ โลกร้อน พร้อมชมทัศนียภาพ เส้นทางการปั่นจักรยาน ตั้งแต่บริเวณสะพานรัษฏาไปจนถึงสะพานดำ

จึงได้จัดโครงการ "ผู้ว่าฯ ปาขี่รถถีบโตยฮอยอลัมภางค์เขลางค์นคร” ขึ้น ในวันที่ 25 พ.ค. 2551 ตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป โดยการปั่นรถจักรยานครั้งนี้ จะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียนนักศึกษา พร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชน ชาวลำปาง ร่วมกันปั่นจักรยาน ในวันเวลาดังกล่าว เริ่มต้นที่สะพานรัษฏา ไปสิ้นสุดที่สะพานดำ .
--------------
ข่าวโดย : อิสระ อินทร์พรม
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

พุธ 21
พฤษภา 51

ข้าวถุงธงฟ้ามาลำปาง 3,000 ถุงเกลี้ยง

ชาวลำปางสนใจซื้อข้าวถุงธงฟ้ามหาชน แต่มีจำหน่ายเพียง 1,500 ถุง เท่านั้น
21 พฤษภาคม 2551 / 12:03:37
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่

http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080521120337

ชาวลำปางสนใจซื้อข้าวถุงธงฟ้ามหาชน แต่มีจำหน่ายเพียง 1,500 ถุง เท่านั้น เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.51) ชาวลำปางสนใจมาซื้อข้าวถุงธงฟ้ามหาชนไปบริโภค โดยจังหวัดลำปางได้รับการจัดสรรมาเพียง 3,000 ถุง และจำหน่ายให้กับประชาชนในเขตอำเภอเมืองเพียง 1,500 ถุง ซึ่งหมดภายในเวลาไม่นานนัก โดยซื้อได้ครอบครัวละ 2 ถุงและจำหน่ายราคาถุงละ 120 บาท ที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า จ.ลำปาง บริเวณศาลากลางจังหวัดหลังเก่า

นางเบญจวรรณ ตัญญู การค้าภายในจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า โครงการข้าวถุงธงฟ้ามหาชนในครั้งนี้ ทางจังหวัดลำปางได้รับการจัดสรรข้าวสารขาว 5 % พร้อมกับจังหวัดอื่นๆ 29 จังหวัดทั่วประเทศ โดยได้รับการจัดสรรจังหวัดละ 3,000 ถุง

ซึ่งทางสำนักงานการค้าภายใน จ.ลำปาง ได้จัดสรรให้กับหน่วยงานทั้งอำเภอต่างๆ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่แจ้งความจำนงเข้ามา ซึ่งมีความต้องการประมาณ 7,000 ถุง

ซึ่งทางการค้าภายในจังหวัดได้นำมาจำหน่ายให้กับประชาชนในเขตอำเภอเมือง จำนวน 1,500 ถุง โดยได้จำหน่ายไปหมดแล้ว ส่วนที่เหลือจะได้ส่งให้กับทางอำเภอห้างฉัตร 500 ถุง จากที่แจ้งความต้องการไว้ถึง 4 พันถุง และในส่วนของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปางเพื่อนำไปให้กับ ลูกจ้างตามโรงงานต่างๆ ที่มีรายได้น้อยได้ซื้อไปบริโภค จำนวน 700 ถุง รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งฝายและองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเสด็จแห่งละ 150 ถุง

ซึ่งข้าวถุงธงฟ้ามหาชนที่ได้รับจัดสรรมาก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ส่วนจะได้รับการจัดสรรมา อีกรอบหรือไม่ยังไม่สามารถจะยืนยันได้ ขณะที่ประชาชนที่มาซื้อข้าวถุงธงฟ้ามหาชนไปบริโภค บอกว่า “ ก็เป็นโครงการที่ดีเพราะราคาข้าวสารตอนนี้ราคาแพง ชาวบ้านจะได้ประหยัดเงินเนื่องจากค่าครองชีพสูง แต่อยากจะให้มีขายมากกว่านี้และนำมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่องในราคาถูกแบบนี้ ”
---------------
ข่าวโดย : อิสระ อินทร์พรม
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

พุธ 21
พฤษภา 51

ข้าวนาปรังลำปาง ร้องรัฐช่วยเหลือ

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังจังหวัดลำปาง ร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ
16 พฤษภาคม 2551 / 13:11:28
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่
http://www.lampang.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=080516131128

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังจังหวัดลำปาง ร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ เบื้องต้นจังหวัดลำปางเป็นผู้ประสานโรงสีต่างจังหวัดรับซื้อในราคาที่สูงขึ้น

นายนาวิน เทพวงศ์ พาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าเหนียวนาปรับในตำบลพิชัย กว่า 100 คน เดินทางมาร้องขอให้จังหวัดช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวนาปรับ ฤดูการผลิต 2551/51 ซึ่งประสบปัญหาราคาตำต่ำ โดยมีการประชุมร่วมกันที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 13 พค.ที่ผ่านมา

โดยมีข้อเรียนร้องว่า ราคาข้าวเปลือกเหนียวนาปรังตกต่ำ ถูกพ่อค้าคนกลางและโรงสีกดราคารับซื้อ ราคาประมาณตันละ 6,000 บาท ซึ่งไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ขอให้ช่วยรับซื้อในราคาตันละ 9,000 – 12,000 บาท เกษตรกรขอรับความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ในการอบลดความชื้นของข้าวเปลือก โดยให้ความช่วยเหลือผ่านกลุ่มเกษตรหรือสถาบันเกษตรกร หรือจ่ายเป็นค่าชดเชย ขอรับการสนับสนุนพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ขอความช่วยเหลือในการจัดหาปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชในราคาถูก และจังหวัดลำปางไม่มีโรงสีขนาดใหญ่ ขอให้จัดหาผู้ซื้อมารับซื้อจากเกษตรกรโดยตรง

สำหรับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า มีแนวทางโดยจังหวัดรับประสานกับโรงสีหรือผู้รับซื้อข้าวในต่างจังหวัด ข้าวเปลือกเหนียวนาปรับ (เกี่ยวสด) ในราคาตันละ 7,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียวความชื้น 15 % ในราคาตันละ 9,000 บาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 14-31 พฤษภาคมนี้ ให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปาง แนะนำเกี่ยวกับการอบลดความชื้นการปรับปรุงเมล็ดพันธุ์และเพิ่มผลผลิตให้กับกลุ่มเกษตรกร

นอกจากนี้จะนำข้อร้องเรียนเสนอให้ส่วนกลางพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ ข้าวเปลือกเหนียวนาปรังของจังหวัดลำปาง ในฤดูการผลิตปี 2550/51 มีพื้นที่ปลูกประมาณ 17,033 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิตออกมา 8,516.50 ตัน
------------
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

พุธ 21
พฤษภา 51

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

สับปะรดล้นตลาด อบต.บ้านเสด็จช่วย 1 ล้านบาท

เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดตำบลบ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด เบื้องต้นอบต.บ้านเสด็จช่วยซื้อ
20 พฤษภาคม 2551 / 13:56:51
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่
http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080520135651

เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดตำบลบ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด เบื้องต้น องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเสด็จได้ตั้งงบประมาณช่วยรับซื้อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเมืองลำปาง กำลังประสบปัญหาราคาสับปะรดที่มีผลผลิตออกมาในช่วงนี้จำนวนมาก ทำให้พ่อค้าคนกลางที่เข้ามารับชื้อในพื้นที่ๆ กดราคาต่ำลงเหลือกิโลกรัมละ 1.70 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ทำให้เกษตรกรขาดทุน เบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเสด็จ ตั้งงบประมาณ 1 ล้านบาทช่วยรับชื้อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร

นายอู๊ด ปินตาเครือ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล กล่าวว่า ในพื้นที่ตำบลบ้านเสด็จเกษตรกรได้เพาะปลูกสับปะรดมีเนื้อที่หลายหมื่นไร่ และคาดว่าในปีนี้มีผลผลิตประมาณ 60,000 ตัน และในช่วงนี้มีผลผลิตออกมามาก ไม่สามารถระบายผลผลิตสู่ตลาดได้ สำหรับพ่อค้าคนกลางที่เข้ามารับชื้อทั้งนำไปขายเพื่อบริโภค และส่งโรงงาน รับชื้อในราคาถูกกิโลกรัมละ 1.70 บาท และผลผลิตบางส่วนที่สุกเกินไปไม่มีผู้รับชื้อทำให้เกษตรกรเดือดร้อน

องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเสด็จ ได้ตั้งงบประมาณเข้ามารับชื้อ ในวงเงิน 1 ล้านบาท โดยชื้อในกิโลกรัมละ 2 บาท และในวงเงินดังกล่าวสามารถรับชื้อได้ประมาณ 5,000 ตัน เท่านั้น

สำหรับผลผลิตที่ อบต.รับซื้อไว้จะขายให้กับพ่อค้าที่มารับชื้อส่งโรงงาน และบางส่วน นำไปให้กับศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเพื่อเป็นอาหารของช้าง และจะนำไปทำปุ๋ยหมัก ขณะที่ เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวอยากให้ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากผลผลิตสับปะรดที่มีผู้ปลูกกันในพื้นที่ถึง 3 ตำบล คือ ตำบลบุญนาคพัฒนา ตำบลบ้านแลง และตำบลบ้านเสด็จ คาดว่าจะมีผลผลิตสับปะรดออกมาอีกจำนวนมาก.
--------------
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อังคาร 20
พฤษภา 51

ลำปางวางศิลาฤกษ์ ศูนย์เซรามิคฯ 145 ล้านบาท


อาคารศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิกฯ มูลค่ากว่า 145 ล้านบาท
ถ่ายเมื่อ 8 พฤษภาคม 2551



อาคารศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิกฯ มูลค่ากว่า 145 ล้านบาท
ถ่ายเมื่อ 8 พฤษภาคม 2551


จ.ลำปาง จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิกฯ
19 พฤษภาคม 2551 / 15:59:47
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่
http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080519155947

จ.ลำปาง จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิกฯ

จังหวัดลำปาง จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิกและหัตถอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ณ สถานที่ก่อสร้าง ต.ศาลา อ.เกาะคา โดยมีนายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในพิธี

ทั้งนี้ จังหวัดลำปางและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับภาครัฐ และเอกชนในจังหวัดลำปาง จัดโครงการก่อสร้างศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิกและหัตอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ยื่นเสนอต่อรัฐบาลและได้รับอนุมัติจาก ครม. เมื่อปี 2547

ต่อมาได้มีการศึกษาความคุ้มค่าการลงทุน ผลกระทบ รวมถึงพื้นที่ที่เหมาะสมที่จะก่อสร้าง พบว่าพื้นที่ราชพัสดุ ต.ศาล อ.เกาะคา มีความเหมาะสม และในปี 2550-2551 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้จัดงบประมาณในวงเงินกว่า 145 ล้านบาทเป็นค่าก่อสร้าง

ซึ่งตัวอาคารศูนย์ฯประกอบด้วย อาคารแสดงนิทรรศการ อาคารแสดงสินค้า อาคาร OTOP อาคารพิพิธภัณฑ์ สำนักงาน และศูนย์อาหาร เป็นต้น โดยการดำเนินการก่อสร้างได้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2550 เป็นต้นมา โดยมีกิจการร่วมค้าเชียงใหม่ริมดอย-ศิลป์โยธา เป็นผู้ดำเนินการ คาดว่าศูนย์แห่งนี้จะสามารถเปิดดำเนินการได้ในราวต้นปี 2552

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า สถานที่ตั้งของศูนย์อยู่ในทำเลที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นขาล่องเข้ากรุงเทพฯ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดทางภาคเหนือได้ นอกจากนี้ตัวอาคารมีความสอดคล้องกับศิลปวัฒนธรรมของลำปางเป็นอย่างดี คาดว่าน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของลำปาง และศูนย์แห่งนี้ จะเป็นประโยชน์แก่อุตสาหกรรมเซรามิกและบุคคลทั่วไป เป็นแหล่งเชื่อมโยงผู้ผลิตผู้ซื้อ ศูนย์กลางส่งเสริมการตลาดทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ แหล่งบริการข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ การผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด การบริหารจัดการในลักษณะศูนย์บริการธุรกิจอีกด้วย
-------------
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อังคาร 20
พฤษภา 51

ลำปางติดโผจังหวัดเสี่ยงภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก


ภาพแผนพื้นอากาศ
ที่มา :
http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=90445

10จว.เสี่ยงภัย น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
[20 พ.ค. 51 - 06:05]
ปรับปรุงจาก : ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=90445

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 20 พฤษภาคม 2551 เมื่อเวลา 04:00 น. ว่า
ร่องความกดอากาศต่ำ กำลังค่อนข้างแรงผ่าน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี กาญจนบุรี จันทบุรี และ ตราด ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อังคาร 20
พฤษภา 51

เยาวชนบ้านสา แจ้ห่ม อบรมค่ายเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม


ภาพจาก : http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080519160343

กลุ่มเยาวชนตำบลบ้านสา อ.แจ้ห่ม ลำปาง 180 คน ร่วมโครงการอบรมค่ายสายสัมพันธ์
19 พฤษภาคม 2551 / 16:03:43
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่
http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080519160343

กลุ่มเยาวชนตำบลบ้านสา อ.แจ้ห่ม ลำปาง 180 คน ร่วมโครงการอบรมค่ายสายสัมพันธ์ สานใจพี่น้อง เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสา ร่วมกับ สภาเด็กและเยาวชนตำบลบ้านสา จัดโครงการค่ายสายสัมพันธ์ สายใจพี่น้อง ปี 3 เรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ ศิลป วัฒนะธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น

กลุ่มเด็กและเยาวชน ชั้น ป.5- ป.6 โรงเรียนบ้านแป้น โรงเรียนชุมชนบ้านสา และโรงเรียนบ้านสาแพะ และสภาเด็กและเยาวชนตำบลบ้านสา จำนวน 180 คน ร่วมกิจกรรมเข้าค่ายสายสัมพันธ์สานใจพี่น้อง ปีที่ 3 ที่โรงเรียนบ้านแป้น ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม

ทั้งนี้ สภาเด็กและเยาวชนตำบลบ้านสา เห็นความสำคัญการพัฒนาศักยภาพและติดอาวุธทางปัญญาให้กับน้อง ๆ ที่กำลังจะจบการศึกษาชั้นประถมศึกษา และเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษา ให้มีแนวคิดที่ดี ตลอดจนแนะนำแนวทางของสถานศึกษาแห่งใหม่ สอนให้น้องรู้จักการทำงานเป็นทีม กล้าคิด กล้าทำและแสดงออกในสิ่งที่ดีงาม รวมถึงปลูกฝังจิตสำนึกให้รักหวงแหนบ้านเกิด และทำงานเพื่อชุมชน เพื่อให้กลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ได้เรียนรู้สืบทอดศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดจนกระตือรือร้นที่จะทำงานเพื่อชุมชน

สำหรับกิจกรรมในการเข้าค่ายครั้งนี้ มีทั้งกิจกรรมเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมของท้องถิ่น เช่น การทำตุง โคมลอย โคมไฟ การฟ้อนแม้ว เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ การให้ความรู้เรื่องเอดส์ และเล่นกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์

นอกจากนี้ ได้นำเด็กและเยาวชนไปศึกษาธรรมชาติในป่าเขา เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของป่าไม้ สัตว์ป่า ต้นน้ำลำธาร ให้ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติและช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ให้คงอยู่ตลอดไป ทั้งนี้การเข้าค่ายทำกิจกรรมจะมีปราชญ์ชาวบ้าน ครูอาจารย์และเยาวชนรุ่นพี่เป็นผู้ถ่ายทอด และเป็นพี่เลี้ยงดูแลเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
------------------
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อังคาร 20
พฤษภา 51

จังหวัดลำปาง กับ เทศกาลวิสาขบูชา

จังหวัดลำปาง จัดกิจกรรมเนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา
19 พฤษภาคม 2551 / 16:01:16

จังหวัดลำปาง จัดกิจกรรมเนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก ประจำปี 2551
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่
http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080519160116

นายไพฑูรย์ รัตน์เลิศลบ ผู้อำนวยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่าด้วยวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง กล่าวคือ เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นวันสำคัญโลกด้วย

โดยปีนี้วันวิสาขบูชา ตรงกับวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2551 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนทั้งปวงได้ถือโอกาสบำเพ็ญกุศลเช่น ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม แสดงตนเป็นพุทธมามกะ เวียนเทียน สมาทานศีล ปฏิบัติธรรมและเจริญภาวนา เป็นต้น

ในส่วนจังหวัดลำปาง จะประกอบพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะและพิธีเวียนเทียนในวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2551 เวลา เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ณ พระอารามหลวงทั้ง 4 แห่ง คือ วัดบุญวาทย์วิหาร วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดพระเจดีย์ซาวหลัง และวัดจองคำ อ.งาว จ.ลำปาง
และที่วัดบุญวาทย์วิหาร จัดโครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2551

โดยในช่วงเช้า มีการทำบุญตักบาตร กิจกรรมการแข่งขันทดสอบความรู้ทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และการประกวดการแสดงธรรมเทศน์มหาชาติ กัณฑ์กุมารบรรพ์ ของพระภิกษุสงฆ์
--------------
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อังคาร 20
พฤษภา 51

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

กรณีพุทธสถานชี้ขาด 20 พ.ค.ตกลงไม่ได้ดำเนินตามกม.


ป้ายประกาศของเจ้าอาวาสวัดเชียงราย ณ กำแพงวัดเชียงราย ต.หัวเวียง อ.เมืองลำปาง ถ่ายเมื่อ 6 พฤษภาคม 2551

กรณีพุทธสถานชี้ขาด 20 พ.ค. ตกลงไม่ได้ดำเนินตามกม.
โดย ลานนาโพสต์ออนไลน์
ที่มา :
http://www.lampangpost.com/news/677-8.htm

กรณีพุทธสถานชี้ขาด 20 พ.ค. ตกลงไม่ได้ดำเนินตามกม.

20 พ.ค. ประชุมครั้งสุดท้ายรู้ผลชี้ขาดพุทธสถานหลังจากยือเยื้อมานาน หากตกลงกันไม่ได้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย กรณีพุทธสถานวัดเชียงราย ได้ยืดเยื้อมานาน ซึ่งพระครูวรกิจจารักษ์ เจ้าอาวาสวัดเชียงราย ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เข้ามาช่วยจัดระเบียบที่ธรณีสงฆ์ หรือพุทธสถาน ซึ่งมีนางสิริกร แจ่มสุวรรณ และคณะได้ถือกรรมสิทธิ์ครอบครองทำธุรกิจโดยมิชอบ ถึงแม้ว่านายกพุทธสมาคม คือ นายสิงห์คำ นภาพรรณ ได้ทำหนังสือถึงนางสิริกร ให้ย้ายออกจากพื้นที แต่กลับเพิกเฉยทำธุรกิจต่อไปไม่สนใจการคัดค้านของนายกพุทธสมาคม

คณะศรัทธา และเจ้าอาวาส โดยนายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มอบหมายให้นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยทางจังหวัดได้มีหนังสือให้แผงพระทั้งหมดออกจากบริเวณพื้นที่ของวัดเชียงรายตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา แต่ระยะเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลาประมาณ 2 เดือนแล้วแผงพระที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวยังไม่มีการย้ายยังคงดำเนินกิจการต่อไปเหมือนเดิม

ทั้งนี้นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้เปิดความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า “ ทางจังหวัดได้มีหนังสือไปยังแผงพระให้มีการออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม นั้น ขณะนี้กลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่ได้มีการย้ายออกไป โดยวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 นี้จะได้มีการทำประชาวิจารณ์ในการหาทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ โดยจะมีเจ้าอาวาสวัดเชียงราย คณะกรรมการวัดเชียงราย พุทธสมาคม รวมทั้งนางสิริกร แจ่มสุวรรณ ผู้เช่าแผง ตัวแทนจากจังหวัด รวมทั้งตัวแทนจากชาวบ้านเข้าร่วมการทำประชาพิจารณ์ในครั้งนี้เพื่อหาทางประนีประนอมด้วยการพูดคุยกัน "

หากว่าทางกลุ่มผู้เช่าแผงยังไม่ออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ทางจังหวัดคงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากว่าทางจังหวัดมีหลักฐานที่ชัดเจน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานและยึดเยื้อมาเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าหนักใจอะไร

ด้านนายสมภพ สุวรรณปัญญา คณะกรรมการวัดเชียงราย ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ ได้มีการประชุมเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เนื่องจากว่าเมื่อมาดูตามสัญญาที่ทางคุณสิริกร แจ่มสุวรรณได้มีการทำสัญญากับพุทธสมาคม โดยจะหมดสัญญาประมาณเดือนตุลาคม 2551 นี้ ทางจังหวัดได้มีการสืบข้อมูลเชิงลึกของเรืองนี้พบว่า ทางพุทธสมาคมเป็นผู้ที่ทำสัญญาฉบับนี้ขึ้นมาจริง โดยทางจังหวัดได้มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับทางพุทธสมาคมมีการดำเนินการในปี 2538 ตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงหรือว่าชี้แจงงบประมาณการเงินให้กับทางจังหวัดรับทราบมาจนถึงทุกวันนี้

ตามหลักการของพุทธสมาคมไม่เกิน 5 ปีต้องมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการหรือการดำเนินงาน วันที่ 20 พฤษภาคมนี้จะเป็นการประชุมชี้ขาดว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไงเพราไม่อยากให้มีการยื้อเยื้ออีก เดือนตุลาคม 2551 จะสิ้นสุดสัญญา การเช่าที่แผงพระทั้งหมด รวมทั้งพุทธสมาคมต้องออกจากบริเวณพุทธสถานทั้งหมด

จากการที่ได้มีการพูดคุยกับแผงพระก็ไม่อยากที่จะออกไปไม่รู้จะไปขายที่ไหน เนื่องจากว่าพุทธสถานทำเลที่ตั้งดี ทางจังหวัดจึงได้มีการพูดคุยกับวัดศรีรองเมืองที่มีแผงพระบริเวณด้านหน้าวัดอยู่แล้วก็สามารถที่จะไปขายได้ และวัดดำรงธรรมก็ยินดีที่จะให้ขายได้ด้วยเช่นกันหากเรื่องดังกล่าวไม่สามารถที่จะตกลงกันได้คงต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป"

สำหรับแนวทางการฟื้นฟูพื้นที่พุทธสถานให้กลับมาเจริญและเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและสาธุชนทั่วไป เนื่องจากเป็นปีมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา จึงได้จัดโครงการขึ้นมากว่า 10 โครงการ เช่น การจัดตั้งโรงเรียนลูกแก้วอุปถัมภ์ โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดเชียงรายลำปาง จัดสร้างอนุสาวรีย์บรรพบุรุษที่เคยสร้างวัด โรงเรียนลูกแก้ว ฯลฯ
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อาทิตย์ 18
พฤษภา 51

บุกโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนเมืองรถม้า


ภาพจาก : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000057673

จนท.บุกโรงแปรรูปไม้เถื่อนเมืองรถม้ายึดของกลางกว่า 100 ท่อน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤษภาคม 2551 21:04 น.
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000057673

ลำปาง – ชุดปฏิบัติการพิเศษรองผู้ว่าฯ ลำปางบุกทลายโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนของแม่เลี้ยงดังเมืองรถม้า ได้ขอกลางเป็นไม้สัก ไม้ประดู่และไม้กระยาเลย กว่า 100 ท่อน และไม้แผ่นแปรรูปแล้วอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้กระทำผิดไหวตัวหลบหนีไปได้

วันนี้(17พ.ค.51) ชุดปฎิบัติการพิเศษของนายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ซึ่งนำโดยนายทัศพล อ๊อดปัญญา นายสมภพ สุวรรณปัญญา พร้อมด้วยนายสุทัศน์ สมคำ ปลัดอำเภอ นำกำลัง อส.จังหวัดลำปาง เข้าทลายโรงงานแปรรูปไม้ในป่าละเมาะในหมู่บ้านนาป้อใต้ ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง

ภายหลังสายลับรายงานให้ทราบว่า แม่เลี้ยงคนดังในตำบลพิชัยที่ก่อนหน้านั้นถูกจับพร้อมไม้เถื่อนจำนวนมาก และได้ประกันตัวออกมาต่อสู้คดี ได้ลักลอบให้ชาวบ้านแปรรูปไม้ในป่าละเมาะในหมู่บ้านเพื่อนำมาสวมกับไม้ที่ซื้อจาก ออป. โดยได้ย้ายสถานที่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังเข้าทลาย ปรากฏว่าผู้กระทำผิดได้ไหวตัวทันและได้หลบหนีไปก่อน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปประมาณ10-15 นาที ซึ่งจะสังเกตได้จากรอยรถที่เข้าออกพื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นรอยใหม่ และมีการทิ้งไม้ไว้กลางทางด้วย

จากการเข้าตรวจสอบพบมีการลักลอบแปรรูปไม้จำนวนมาก มีทั้งไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้กระยาเลย ขนาด 1.20 เมตร จำนวนกว่า 100 ท่อน และไม้ที่แปรรูปแล้วอีกจำนวนมาก นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุยังพบถังน้ำมัน อาหาร และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ในการกระทำความผิดตกอยู่กลางป่าใกล้ที่เกิดเหตุอีกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ ชุดป้องกันและรักษาป่าที่ ลป 8 แม่ทรายคำ เข้ามาตรวจสอบและวัดปริมาตรไม้ก่อนที่จะขนไม้ทั้งหมดไปเก็บรักษาที่สวนป่าแม่ทรายคำ เมื่อดำเนินคดีเสร็จสิ้นทางป่าไม้จะได้นำไม้ดังกล่าวออกประมูลขายเพื่อนำเงินเข้ารัฐต่อไป
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อาทิตย์ 18
พฤษภา 51

ร.พ.ช้างลำปางเร่งรักษา “พังคำป้อ” ก่อนตาบอด 2 ข้าง


ภาพจาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000057669

ร.พ.ช้างลำปางเร่งรักษา “พังคำป้อ” ก่อนตาบอด 2 ข้าง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤษภาคม 2551 21:02 น
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000057669

ลำปาง – โรงพยาบาลมูลนิธิเพื่อนช้างเร่งรักษา “พังคำป้อ” ช้างใช้งานของ ออป. ที่ป่วยเป็นต้อกระจกที่ดวงตาทั้งสองข้างและมีอาการอักเสบรุนแรง หวังยื้อดวงตาข้างซ้ายเอาไว้ หลังตาข้างขวาบอดสนิท

วันนี้(17พ.ค.51) ที่โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง นายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง พร้อมด้วยทีมแพทย์และควาญช้างได้ ช่วยกันรักษาช้าง “พังคำป้อ” อายุประมาณ 40 ปี ที่เป็นช้างใช้งานขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้(ออป.) ซึ่งอาการตาทั้งสองข้างอักเสบ โดยเบื้องต้นพบว่าตาข้างขวาบอดสนิทไปแล้ว ส่วนตาข้างซ้ายเป็นสีขาวขุ่นคล้ายเป็นต้อกระจก ทางแพทย์ได้ให้ยาซึมและรักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะฉีดเข้าไปในดวงตาข้างซ้าย จากนั้นได้เย็บปิดตาเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก คาดอีกประมาณ 2 อาทิตย์จึงจะเปิดตาดูว่าจะสามารถรักษาได้หรือไม่

ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยว่า ได้รับ “พังคำป้อ” ซึ่งเป็นช้างงานของ ออป.อยู่ที่บ้านสบแหง ต.หลวงเหนือ อ.งาว จ.ลำปาง เข้ามารักษาตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้(16 พ.ค.51) เนื่องจากป่วยเป็นโรคต้อกระจกทั้งในดวงตาทั้งสองข้าง ทำให้ดวงตามีสีขุ่น โดยดวงตาข้างขวาได้บอดสนิทแล้ว ส่วนข้างซ้ายยังสามารถมองเห็นได้เลือนลาง ทำให้ต้องใช้งวงช่วยคลำทางเวลาเดิน ทั้งนี้หากไม่รีบทำการรักษาอาจจะทำให้ช้างตาบอดทั้งสองข้างได้ สำหรับสาเหตุของการป่วยเป็นต้อกระจกของ “พังคำป้อ” นั้น คาดว่าน่าจะมาจากการที่ช้างถูกควาญใช้ตะขอบังคับตีบริเวณศีรษะบ่อยเกินไป จนกระทั่งส่งผลกระทบกระเทือนไปถึงเส้นประสาทดวงตา รวมทั้งในช่วงฤดูร้อนแดดจัด ทำให้ช้างแสบตาเกิดน้ำตาไหล และใช้งวงขยี้บริเวณตา ทำให้เกิดการติดเชื้อในดวงตา ส่งผลให้ตาบอดได้

ปัจจุบันในประเทศไทยพบช้างที่มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาอยู่ประมาณ 30% จึงอยากฝากเตือนผู้ที่เลี้ยงช้าง หากเห็นช้างมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาให้ปรึกษาสัตวแพทย์และรีบนำมารักษา เพราะช้างเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนนาน ถ้าตาบอดแล้วจะทำให้ใช้ชีวิตลำบาก
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อาทิตย์ 18
พฤษภา 51

สร้างสวนเขลางค์ช้าปรับวันละหมื่นข่วงเมืองเสร็จทัน


โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ข่วงนคร บริเวณห้าแยกหอนาฬิกา
ที่มาภาพ : รายงานกิจการประจำปี เทศบาลนครลำปาง 2005-2006, น.33


โครงการปรับปรุงสวนสาธารณะเขลางค์นคร
ที่มาภาพ : รายงานกิจการประจำปี เทศบาลนครลำปาง 2005-2006, น.15

สร้างสวนเขลางค์ช้าปรับวันละหมื่นข่วงเมืองเสร็จทัน
ข่าวโดย ลานนาโพสต์ออนไลน์
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000057673

สร้างสวนเขลางค์ช้าปรับวันละหมื่นข่วงเมืองเสร็จทัน

เทศบาลเตรียมตั้งโต๊ะปรับวันละ 10,000 สวนเขลางค์ช้า แต่ข่วงเมืองยังเสร็จทัน เปิดใช้ต้นเดือนพฤศจิกายน

นายนิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครลำปาง เปิดเผยว่า การก่อสร้างสวนสาธารณะเขลางค์ได้มีการขยายเวลามาแล้ว 2 ช่วง
ซึ่งผู้รับเหมาได้เข้ารับงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2550 แต่ยังเข้าไปทำงานไม่ได้ เนื่องจากทางเทศบาลขอให้เสร็จสิ้น
พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมก่อน เพราะต้องใช้สนาม

ผู้รับเหมาจึงเข้ามาเริ่มงานได้ในวันที่ 20 สิงหาคม 2550 จึงต้องขยายเวลาให้ 20 วัน
อีกช่วงหนึ่งคือ ช่วงวันหยุดสงกรานต์ 10 วัน ที่จะต้องใช้พื้นที่ในสวนสาธารณะเขลางค์เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ
จึงขยายเวลาต่อให้อีก 10 วัน แต่ขณะนี้เวลาการทำงาน รวมกับที่ขยายเวลาให้แล้วทางผู้รับเหมาก็ยังทำงานไม่เสร็จ

โดยกำหนดเวลาถึงวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ อาจจะต้องทำการปรับเงินผู้รับเหมา วันละประมาณ 10,000 บาท แต่คาดว่าจะส่งงานภาย
ในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะปูหญ้าเสร็จไป 80% แล้ว ในส่วนของกรณีที่เสาไฟ 42 ต้นถูกขโมยหายไปนั้น ได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวผู้ที่ถูกกล่าวหามาสืบสวนสอบสวน และคงจะมีการทำเรื่องตามขั้นตอนผ่านทางอัยการ ให้ทางอัยการส่งฟ้อง ซึ่งเรื่องทั้งหมดอยู่ที่ตำรวจแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้

สำหรับข่วงเมืองกำหนดส่งมอบงานตามสัญญาจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งผู้รับเหมาทำงานได้ค่อนข้างเร็ว ทางด้านสวนสาธารณะทำเสร็จไปแล้ว 90%

ส่วนที่ยังไม่เสร็จคือ สถานีย่อยของสถานีตำรวจ และการปรับภูมิทัศน์ในบริเวณนั้น ส่วนนี้น่าจะเสร็จภายในสิ้นเดือน และอีกส่วนที่ยังทำไม่เสร็จคือการปรับปรุงอาคารด้านหน้าเทศบาลให้มีอัตลักษณ์แบบล้านนา รวมทั้งการปรับปรุงหอนาฬิกา ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่อาจจะต้องใช้เวลาจนถึงกลางเดือนหรือปลายเดือนกรกฎาคม
แต่งานที่ยากที่สุดและใช้เวลานานคือ งานถนน เพราะจะต้องทำเป็น ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กบุลายถนน พร้อมทั้งติดตั้งระบบไฟสัญญาณจราจรใหม่ ในส่วนนี้จะต้องใช้เวลามาก ต้องมีการรื้อผิวถนน วางโครงสร้างผูกเหล็ก เทปูนอย่างหนา และต้องมีการทำลายถนนรอบหอนาฬิกา ซึ่งจะต้องมีการปิดถนนทีละส่วนไป โดยตามที่ตกลงกับผู้รับเหมานั้น จะพยายามให้เสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม เพราะจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองงานล่องสะเปาจาวละกอน ระหว่างวันที่ 10-14 พฤศจิกายน เพราะฉะนั้นจะต้องทำให้เสร็จก่อน ในการเปิดบริการให้ประชาชนเข้าไปใช้สวนสาธารณะตามจริงแล้วสามารถเปิดใช้ได้ แต่คิดว่าจะยังไม่เปิดใช้ในตอนนี้ เพราะจะต้องรอให้ทำงานเสร็จทั้งหมด หากมีการเปิดในส่วนของสวนสาธารณะไปก่อน อาจจะติดขัดการทำงานของผู้รับเหมาในการทำถนน จึงคิดว่าจะมีการเปิดใช้พร้อมกันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน.
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อาทิตย์ 18
พฤษภา 51

กกต.ลำปาง รับรอง ส.อบจ.ลำปาง 25 จาก 30 เขต

กกต.ลำปาง มีมติรับรอง ส.อบจ.ลำปาง จำนวน 25 เขต จาก 30 เขต ส่วนนายก อบจ.ลำปางและ ส.อบจ.ที่เหลือ รอผลสอบสวน
15 พฤษภาคม 2551 / 09:42:25
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่
http://www.lampang.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=080515094225

กกต.ลำปาง มีมติรับรอง ส.อบจ.ลำปาง จำนวน 25 เขต จาก 30 เขต ส่วนนายก อบจ.ลำปางและ ส.อบจ.ที่เหลือ รอผลสอบสวน

นายสมบูรณ์ วงศ์โสม กกต.ลำปาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2551
มีมติรับรองผลการเลือกตั้ง ส.อบจ.ลำปาง จำนวน 25 เขต อีก 5 เขต มีเรื่องคัดค้านและจะต้องทำการเลือกตั้งใหม่ ส่วนผลการเลือกตั้ง
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง มีเรื่องร้องคัดค้าน ต้องรอผลการสอบสวนจากคณะกรรมการการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง

นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดลำปางมีเขตการเลือกตั้ง ส.อบจ.ลำปางทั้งหมด 30 เขต จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2551
ที่ผ่านมา มีหลายเขตที่มีการร้องคัดค้านและมีปัญหาบัตรเกินจนทำให้ไม่สามารถประกาศผลคะแนนได้ เช่น เขตเลือกตั้งที่ 2 ห้างฉัตร เขตเลือกตั้งที่ 2 และ 3 อำเภอเมือง และเขตเลือกตั้งอำเภอเมืองปาน มีการร้องคัดค้านหลายเรื่อง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอเกาะคา ซึ่งมีบัตรเลือกตั้งนายกฯ และสมาชิกฯ เกินมาอย่างละ 1 บัตร ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่สามารถประกาสผลได้ คาดว่าหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเร็ววันนี้ อย่างไรก็ตาม การรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ทั้ง 25 เขต ดังกล่าว ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางอีกครั้งหนึ่ง
-----------------------------------------------------------------
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อาทิตย์ 18
พฤษภา 51

สับปะรดล้นตลาด ราคาต่ำ โรงงานรับซื้อจำกัด

เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดลำปาง ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ และโรงงานรับซื้อมีจำกัด ขอให้ช่วยซื้อเพื่อบริโภค
16 พฤษภาคม 2551 / 15:56:19
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่
http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=080516155619

เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดลำปาง ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ และโรงงานรับซื้อมีจำกัด ขอให้ช่วยซื้อเพื่อบริโภค

นางศิรพร ช่างปณีตัง ผู้จัดการสหกรณ์ผู้ปลูกสับปะรดลำปาง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลผลิตสับปะรดของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดลำปาง
โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลบ้านเสด็จ อ.เมือง ออกมาปริมากมากจนล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ กิโลกรัมละ 1-2 บาท เดิมมีโรงงานรับซื้อผลผลิตจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันหยุดรับซื้อไว้ชั่วคราว เนื่องจากมีผลผลิตในพื้นที่ออกสู่ตลาดมากเช่นกัน จึงเหลือที่จัดส่งให้โรงงานเพียงแห่งเดียวที่จังหวัดกาญจนบุรี

ผลผลิตที่ออกมามากช่วงนี้โดยไม่มีตลาดรองรับ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกได้รับความเดือนร้อน จากปัญหาดังกล่าว เบื้องต้นทาง อบต.บ้านเสด็จ ได้เข้าไปช่วยเหลือโดยการรับซื้อ กิโลกรัมละ 2 บาท ซึ่งมีผลผลิตออกสู่ตลาดวันละประมาณ 70 ตัน และให้ทางสกรณ์ฯช่วยหาตลาดระบายผลผลิตให้

ผู้จัดการสหกรณ์ผู้ปลูกสับปะรดลำปาง กล่าวอีกว่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่ ขอความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป ช่วยรับซื้อสับปะรดเพื่อบริโภค ซึ่งจำหน่ายผลสด กิโลกรัมละ 2 บาท ส่วน สับปะรดสุกที่ส่งโรงงานไม่ได้สำหรับทำอาหารสัตว์หรือปุ๋ย จำหน่าย กก.ละ 1 บาท หากต้องการจำนวนมากสามารถติดต่อได้ที่ สหกรณ์ผู้ปลูกสับปะรดลำปาง จำกัด โทร.086-6583097
--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อาทิตย์ 18
พฤษภา 51

ข้าวนาปรังลำปาง ร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ !!!

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังจังหวัดลำปาง ร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ
16 พฤษภาคม 2551 / 13:11:28
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์ เขต 3 เชียงใหม่
http://www.lampang.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=080516131128

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังจังหวัดลำปาง ร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ เบื้องต้นจังหวัดลำปางเป็นผู้ประสานโรงสีต่างจังหวัดรับซื้อในราคาที่สูงขึ้น

นายนาวิน เทพวงศ์ พาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าเหนียวนาปรับในตำบลพิชัย กว่า 100 คน
เดินทางมาร้องขอให้จังหวัดช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวนาปรับ ฤดูการผลิต 2551/51 ซึ่งประสบปัญหาราคาตำต่ำ
โดยมีการประชุมร่วมกันที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 13 พค.ที่ผ่านมา

โดยมีข้อเรียกร้องว่า ราคาข้าวเปลือกเหนียวนาปรังตกต่ำถูกพ่อค้าคนกลางและโรงสีกดราคารับซื้อ ราคาประมาณตันละ 6,000 บาท
ซึ่งไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ขอให้ช่วยรับซื้อในราคาตันละ 9,000 – 12,000 บาท

เกษตรกรขอรับความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ในการอบลดความชื้นของข้าวเปลือก โดยให้ความช่วยเหลือผ่านกลุ่มเกษตรหรือสถาบันเกษตรกร
หรือจ่ายเป็นค่าชดเชย ขอรับการสนับสนุนพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ขอความช่วยเหลือในการจัดหาปุ๋ย
และยาปราบศัตรูพืชในราคาถูก
และจังหวัดลำปางไม่มีโรงสีขนาดใหญ่ ขอให้จัดหาผู้ซื้อมารับซื้อจากเกษตรกรโดยตรง

สำหรับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า มีแนวทางโดยจังหวัดรับประสานกับโรงสีหรือผู้รับซื้อข้าวในต่างจังหวัด
ข้าวเปลือกเหนียวนาปรับ (เกี่ยวสด) ในราคาตันละ 7,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียวความชื้น 15 % ในราคาตันละ 9,000 บาท
ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 14-31 พฤษภาคมนี้ ให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปาง แนะนำเกี่ยวกับการอบลดความชื้น
การปรับปรุงเมล็ดพันธุ์และเพิ่มผลผลิตให้กับกลุ่มเกษตรกร นอกจากนี้จะนำข้อร้องเรียนเสนอให้ส่วนกลางพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ ข้าวเปลือกเหนียวนาปรังของจังหวัดลำปาง ในฤดูการผลิตปี 2550/51 มีพื้นที่ปลูกประมาณ 17,033 ไร่
คาดว่าจะมีผลผลิตออกมา 8,516.50 ตัน
--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวโดย : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อาทิตย์ 18
พฤษภา 51