กรณีพุทธสถานชี้ขาด 20 พ.ค. ตกลงไม่ได้ดำเนินตามกม.
โดย ลานนาโพสต์ออนไลน์
ที่มา : http://www.lampangpost.com/news/677-8.htm
กรณีพุทธสถานชี้ขาด 20 พ.ค. ตกลงไม่ได้ดำเนินตามกม.
20 พ.ค. ประชุมครั้งสุดท้ายรู้ผลชี้ขาดพุทธสถานหลังจากยือเยื้อมานาน หากตกลงกันไม่ได้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย กรณีพุทธสถานวัดเชียงราย ได้ยืดเยื้อมานาน ซึ่งพระครูวรกิจจารักษ์ เจ้าอาวาสวัดเชียงราย ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เข้ามาช่วยจัดระเบียบที่ธรณีสงฆ์ หรือพุทธสถาน ซึ่งมีนางสิริกร แจ่มสุวรรณ และคณะได้ถือกรรมสิทธิ์ครอบครองทำธุรกิจโดยมิชอบ ถึงแม้ว่านายกพุทธสมาคม คือ นายสิงห์คำ นภาพรรณ ได้ทำหนังสือถึงนางสิริกร ให้ย้ายออกจากพื้นที แต่กลับเพิกเฉยทำธุรกิจต่อไปไม่สนใจการคัดค้านของนายกพุทธสมาคม
คณะศรัทธา และเจ้าอาวาส โดยนายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มอบหมายให้นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยทางจังหวัดได้มีหนังสือให้แผงพระทั้งหมดออกจากบริเวณพื้นที่ของวัดเชียงรายตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา แต่ระยะเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลาประมาณ 2 เดือนแล้วแผงพระที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวยังไม่มีการย้ายยังคงดำเนินกิจการต่อไปเหมือนเดิม
ทั้งนี้นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้เปิดความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า “ ทางจังหวัดได้มีหนังสือไปยังแผงพระให้มีการออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม นั้น ขณะนี้กลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่ได้มีการย้ายออกไป โดยวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 นี้จะได้มีการทำประชาวิจารณ์ในการหาทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ โดยจะมีเจ้าอาวาสวัดเชียงราย คณะกรรมการวัดเชียงราย พุทธสมาคม รวมทั้งนางสิริกร แจ่มสุวรรณ ผู้เช่าแผง ตัวแทนจากจังหวัด รวมทั้งตัวแทนจากชาวบ้านเข้าร่วมการทำประชาพิจารณ์ในครั้งนี้เพื่อหาทางประนีประนอมด้วยการพูดคุยกัน "
หากว่าทางกลุ่มผู้เช่าแผงยังไม่ออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ทางจังหวัดคงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากว่าทางจังหวัดมีหลักฐานที่ชัดเจน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานและยึดเยื้อมาเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าหนักใจอะไร
ด้านนายสมภพ สุวรรณปัญญา คณะกรรมการวัดเชียงราย ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ ได้มีการประชุมเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เนื่องจากว่าเมื่อมาดูตามสัญญาที่ทางคุณสิริกร แจ่มสุวรรณได้มีการทำสัญญากับพุทธสมาคม โดยจะหมดสัญญาประมาณเดือนตุลาคม 2551 นี้ ทางจังหวัดได้มีการสืบข้อมูลเชิงลึกของเรืองนี้พบว่า ทางพุทธสมาคมเป็นผู้ที่ทำสัญญาฉบับนี้ขึ้นมาจริง โดยทางจังหวัดได้มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับทางพุทธสมาคมมีการดำเนินการในปี 2538 ตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงหรือว่าชี้แจงงบประมาณการเงินให้กับทางจังหวัดรับทราบมาจนถึงทุกวันนี้
ตามหลักการของพุทธสมาคมไม่เกิน 5 ปีต้องมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการหรือการดำเนินงาน วันที่ 20 พฤษภาคมนี้จะเป็นการประชุมชี้ขาดว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไงเพราไม่อยากให้มีการยื้อเยื้ออีก เดือนตุลาคม 2551 จะสิ้นสุดสัญญา การเช่าที่แผงพระทั้งหมด รวมทั้งพุทธสมาคมต้องออกจากบริเวณพุทธสถานทั้งหมด
จากการที่ได้มีการพูดคุยกับแผงพระก็ไม่อยากที่จะออกไปไม่รู้จะไปขายที่ไหน เนื่องจากว่าพุทธสถานทำเลที่ตั้งดี ทางจังหวัดจึงได้มีการพูดคุยกับวัดศรีรองเมืองที่มีแผงพระบริเวณด้านหน้าวัดอยู่แล้วก็สามารถที่จะไปขายได้ และวัดดำรงธรรมก็ยินดีที่จะให้ขายได้ด้วยเช่นกันหากเรื่องดังกล่าวไม่สามารถที่จะตกลงกันได้คงต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป"
สำหรับแนวทางการฟื้นฟูพื้นที่พุทธสถานให้กลับมาเจริญและเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและสาธุชนทั่วไป เนื่องจากเป็นปีมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา จึงได้จัดโครงการขึ้นมากว่า 10 โครงการ เช่น การจัดตั้งโรงเรียนลูกแก้วอุปถัมภ์ โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดเชียงรายลำปาง จัดสร้างอนุสาวรีย์บรรพบุรุษที่เคยสร้างวัด โรงเรียนลูกแก้ว ฯลฯ
..............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST
อาทิตย์ 18
พฤษภา 51
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น