ป้ายบอกทางตกแต่งลายรถม้า อ.เมือง จ.ลำปาง ที่มา : โปสการ์ด จาก "ร้านม้าหมุน" http://marsmoon.hi5.com

บทบรรณาธิการ


>>>on Lampang POST <<< ยินดีต้อนรับทุกท่าน สู่มหาสมุทรแห่งข้อมูลข่าวสารลำปางนับแต่นี้ไป


เรื่องใหญ่ และเรื่องสำคัญของสังคมไทย ที่ไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่กันเท่าใดนัก ก็คือระบบฐานข้อมูล การจัดทำระบบหอจดหมายเหตุ โดยเฉพาะลำปางเอง ข้อที่น่าตกใจคือว่า ลำปางเคยมีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ ปีพ.ศ.2492 คือ ไทยลานนา และ เอกราช ในปีพ.ศ.2500

แต่ลำปาง ขาดโครงสร้างพื้นฐานที่จะเก็บสิ่งตีพิมพ์ดังกล่าว (ยังไม่ต้องนับถึงสื่อสิ่งพิมพ์ และข้อมูลอีกจำนวนมหาศาลที่ขาดการจัดเก็บเป็นข้อมูลให้คนรุ่นหลังค้นคว้า ศึกษา) เราจึงไม่สามารถหาต้นฉบับหนังสือพิมพ์ดังกล่าว เพื่อค้น "ประวัติศาสตร์" และ "เรื่องราวลำปาง" แม้ในระยะสั้นๆ เพียง 50 -60 ปี

เชื่อว่าอีกไม่นานเรื่อง "น้ำท่วมใหญ่ลำปาง 2548" ที่สร้างความพินาศเสียหายอย่างใหญ่หลวง ก็คงจะเป็นเพียงเรื่องเล่าจากความทรงจำจางๆ เช่นเดียวกับที่เหตุภัยพิบัติทั้งหลายที่เกิดกับลำปางแต่มิได้รับการบันทึก ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ตลาด น้ำท่วม คนประสบภาวะหิวโหย...ทั้งหลายทั้งปวงจะไม่สามารถสืบค้นทางประวัติเอกสารได้แน่ชัด...และถูกหลงลืมไปในที่สุด

หากไม่มองโลกในแง่ร้ายนัก ในโลกคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต อันเป็นโอกาสอันกว้างขวางที่สามารถย่นเวลา และระยะทางการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมหาศาล วันนี้ขณะที่ seacrh หาข้อมูลข่าวทำให้ได้พบกับเว็บไซต์หนึ่งนามว่า http://www.lampang2u.com/ เว็บนี้มีความพยายามอย่างยิ่งในการเก็บรวบรวมฐานข้อมูลร้านค้าลำปาง และข่าวท้องถิ่นลำปางได้อย่างน่าชื่นชม

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวยังมีไม่เพียงพอ ยังคับแคบเกินไป เมื่อเทียบกับความกว้างขวางในโลกไซเบอร์ พื้นที่ตรงนี้ จึงอาสาที่จะออกมาเพื่อรองรับกับ ข้อมูล ข่าวสาร และสถิติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับลำปาง ในปัจจุบันสมัย เท่าที่จะมีกำลังจะทำได้ ขณะเดียวกันก็มองลู่ทางของเครือข่ายในมหาสมุทรแห่งข้อมูลของลำปางไปด้วย

ขณะที่ on Lampang : เปิดโลกลำปาง ก็ทำอีกหน้าที่หนึ่งในการรวบรวมฐานข้อมูล และข่าวสารทางศิลปวัฒนธรรมอันเป็นรากฐานสำคัญหนึ่งของลำปาง ซึ่งคนละบทบาทกับที่แห่งนี้ จึงถือว่า บทนำนี้เป็นการเริ่มนับหนึ่ง ที่ออกก้าวเพื่อวันข้างหน้า ดังที่ เอนก นาวิกมูล นักเขียนสารคดีชื่อดัง เคยบอกไว้ว่า "เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า"

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ on Lampang POST
ศุกร์ 2
พฤษภา 51

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ปิดป่าแม่พริก ตั้งด่านกันคนนอกจับอึ่ง

ปิดป่าแม่พริก ตั้งด่านกันคนนอกจับอึ่ง
โดย ลานนาโพสต์ออนไลน์
ที่มา : http://www.lampangpost.com/news/672-2.htm

สถานการณ์การบุกรุกทำลายป่าไม้มีจำนวนมาก ทำให้จำนวนป่าไม้ลดลงอย่างน่าตกใจ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแผนและมาตรการป้องกันและรักษาป่าและฟื้นฟูสภาพป่าปี2551-2555 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550

และกรณีที่นายชาย พานิชพรพันธุ์ รองผวจ.ลำปางได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์กรส่วนท้องถิ่นและอำเภอทุกแห่ง เรื่องมาตรการป้องกันรักษาและฟื้นฟูสภาพป่า ขอให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปลูกป่าใช้สอย ด้วยการปลูกพันธุ์ไม้โตเร็ว เช่น ตะกู ยูคาลิปตัส ขี้เหล็ก ประดู่ ต้นแค กระถินยักษ์และสะเดา

ตลอดจนการสร้างเครือข่าย ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันรักษาป่าให้มีการสร้างแนวร่วมทางสังคมด้วยการสนับสนุนและส่งเสริมให้ภาคเอกชน ภาคประชาชน จับตาและเฝ้าระวังในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ ให้มีการสนับสนุนและยกย่องผู้ทำประโยชน์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ มีการฝึกอบรมประชาชนในพื้นที่ให้เรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ การฝึกอบรมประชาชนเป็นอาสาสมัครพิทักษ์ป่า การอบรมเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้การจัดค่ายเยาวชน

ที่สำคัญนายชาย พานิชพรพันธุ์ รองผวจ.ลำปาง ยังแนะนำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการบุกรุกทำลายป่า ด้วยการสร้างจิตสำนึกและแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นในการอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรป่าไม้ พร้อมกับการประสานงานข่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ให้ข้อมูลการบุกรุกทำลายป่า การเฝ้าดูพฤติกรรมบุคคลในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย

นายบัณฑิต สิงห์ใจมา นายกเทศมนตรีตำบลแม่พริก เปิดเผยว่าทางเทศบาลตำบลแม่พริกได้มองเห็นความสำคัญของมาตรการป้องกันรักษาและฟื้นฟูสภาพป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าแม่พริก กล่าวกับผู้สื่อข่าวลานนาโพสต์ว่า “ป่าไม้แม่พริกในอดีตเคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม้ แต่กลับถูกทำลายไปเป็นจำนวนมากจากฝีมือของคนต่างถิ่นที่เข้ามาหาของป่า บางรายไม่ได้ของป่าก็ตัดเอาไม้เพื่อนำออกไปทำฟืน แม้แต่ลูกวัวตัวเล็กๆที่ชาวบ้านปล่อยเลี้ยงเอาไว้ในป่าก็ขโมยเอาไป เขาใช้วิธีเอาใส่รถแล้วให้คนเหยียบเอาไว้เพื่อไม่ให้คนเห็น” “ป่าแม่พริกหน้าฝนเคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยของป่า อาทิ อึ่ง เห็ดโคน คนพวกนี้ ไปหาเห็ดตอนเช้ามืดเจออึ่งซึ่งจะไข่ช่วงเช้ามืด ถ้าเป็นคนบ้านเราจะไม่จับปล่อยเพื่อให้มันขยายพันธุ์ แต่ถ้าเป็นคนจากถิ่นอื่นเขาไม่สนใจจะจับอย่างเดียว คนพวกนี้จะมาตั้งแต่ยังไม่มืดค่ำ ตะวันตกดินก็กางเต็นท์พอฝนเริ่มตกอึ่งออกมาเล่นฝนก็เอาไฟจี้ใส่จับเอาไปทันทีไม่ว่าตัวเล็กตัวใหญ่ อึ่งหนีลงน้ำก็ใช้แหเหวี่ยงเอายอจับ คนแม่พริกเราหากินก็จริงแต่ก็ปล่อยให้อึ่งได้ขยายพันธุ์ ตัวเล็กตัวน้อยเขาจะไม่จับ”

นายบัณฑิตเผยต่อว่า “เมื่อประมาณสามปีที่ผ่านมา ตนเคยปิดป่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นป่ากลับมาอุดมสมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด แต่พอยกเลิกคำสั่งคนจากต่างถิ่นได้ทะลักเข้ามาทำลายป่ากันอีก เข้ามากันมากมายมาจากท้องที่อื่นมีทั้งจาก ตาก สุโขทัย แพร่ มากันมากกว่าคนแม่พริกทำมาหากินเสียอีก จนในชาวบ้านร้องมากับตนว่าทนไม่ไหวแล้ว ขอให้ปิดป่าเหมือนเดิมเถอะ จึงตัดสินใจทำประชาคมผลปรากฏว่าคนอำเภอแม่พริกเห็นด้วย จึงได้ทำโครงการเสนอนายอำเภอแม่พริก ตามนโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนโดยให้มีการอนุรักษ์ทรัพยากรที่ดิน ป่าไม้ สัตว์ป่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการแผนและมาตรการป้องกันและรักษาป่าและฟื้นฟูสภาพป่าพ.ศ. 2551 – 2555 นั้น ซึ่งได้รับความเห็นชอบโดยนายวุฒิพงษ์ แก้วปาเฟือย ปลัดอาวุโสปฏิบัติราชการแทนนายอำเภอแม่พริก พร้อมได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังองค์กรท้องถิ่นอื่นๆของอำเภอแม่พริกด้วย

เทศบาลตำบลแม่พริก ร่วมกับราษฎรในพื้นที่ และกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนตำบลแม่พริก จัดประชุมเพื่อหารือและหาแนวทางในการอนุรักษ์ป่าชุมชนในเขตพื้นที่ ต.แม่พริก เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 51 ที่ผ่านมา มีประสงค์เพื่อการอนุรักษ์และป้องกันรักษาป่าชุมชนในพื้นที่โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่า และป่าไม้ ที่ถูกทำลายเป็นจำนวนมากและเพื่อเป็นการรักษาความสมดุลของสภาวะแวดล้อมและป้องกันภัยธรรมชาติ และที่ประชุมจึงมีมติให้ปิดป่าในพื้นที่ตำบลแม่พริกทั้งหมด พร้อมกับทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัด อำเภอ ทั้งในจังหวัดลำปางและจังหวัดใกล้เคียงให้เตือนราษฎรอีกทางหนึ่ง” “คณะทำงานได้จัดตั้งด่านเฝ้าระวังเส้นทางเข้าออกพื้นที่ตำบลแม่พริก ตลอด 24 ชั่วโมงเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา หากมีการฝ่าฝืนต้องมีโทษปรับ แต่ถ้ามีการทำผิดกฎหมายจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายบัณฑิตสิงห์ใจมา นายกเทศมนตรีกล่าวทิ้งท้าย.
....
ผู้สื่อข่าว
on Lampang POST

อังคาร 8
กรกฎา 51

1 ความคิดเห็น:

แดงโซนบน กล่าวว่า...

กันคนนอกจับอึ่ง แหมเขาก็คนไทยเหมือนกัน ใยปิดกันกันแบบนี้ สั่งการอย่างคนไร้สมอง 4มือไปได้ น่าอับอายแทนนายกจิงๆ เอาเวลาไปหาคำต่อสู้ในศาลแล้วกันนะ ว่าจะเป็นยังไง แต่ทายผลได้เลย ตำแหน่งนายกไม่ใช่ของบัณทิต สิงห์ใจมาอีกแน่ๆเพราะว่า ผลงานการกินของคุณ มันฟ้องว่ากี่ปีที่ผ่านมา อ.แม่พริก แผ่นดินต่ำเพราะคนอย่างคุณ สำนึกแล้วรีบลาออกซะ อย่าให้เขาได้ไล่เลย อายแทน กับการทำงานระบบ วงศาคณาญาติ ไอ่ดินที่ขอเขาถมที่นะ มันไม่ได้ไปซื้อมานะ ปปช.เล่นแน่ บัณทิต เอ๋ย